ASL ANALYSIS GUIDE

ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1570-1602 ชะลอความร้อนแรง

ประเด็นการลงทุน
1.IMF คาด GDP จีนขยายตัว 5.2% ปีนี้ มั่นใจจีนช่วยหนุนเศรษฐกิจโลกเติบโต
2. ตลาดเริ่มกังวลกลุ่มธนาคารในยุโรปอีกครั้ง
3. การประชุมกนง. 29 มี.ค. คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25%
สู่ระดับ 1.75%

 

วันนี้เคาะ SAT สำหรับเป้ายอดขายเติบโต 5%YoY สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 3.5% เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะใกล้เคียงปี 2565 เท่ากับ 18.2% ส่วนยอดดผลิตรถยนต์ในปี 2566 คาดการณ์ 1.9-1.95 ล้านคัน เติบโตเล็กน้อย 1-3.5%

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้

SETI ปิดที่ 1,591.85 จุด ลดลง 1.80 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 44,924.85 ล้านบาท แกว่งตัวในกรอบแคบ ยังคงไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาด หลังจากตอบรับข่าวต่างๆ ไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา

Research Highlight ติดตามการประชุม กนง.

1. IMF คาด GDP จีน ขยายตัว 5.2% ปีนี้ มั่นใจจีนช่วยหนุนเศรษฐกิจโลกเติบโต

    • IMF ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่ง และจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยคาดการณ์ GDP ปีนี้ขยายตัว 5.2% เพิ่มขึ้นจากปี 65 ถึง 2 เท่า ได้แรงหนุนจากการอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัว หลังจากจีนเปิดประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีภาพรวมที่ไม่สดใส
    • ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ ทั้งการที่สหรัฐยิงดาวเทียมของจีนตก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นดาวเทียมสอดแนม และการแบนแอป TikTok ที่อ้างเรื่องความเสี่ยงด้านความมั่นคง  รวมไปถึงการที่จีนพิจารณาที่จะจัดหาความช่วยเหลือด้านอาวุธให้กับรัสเซียเพื่อทำสงครามในยูเครน ในเชิง Sentimnent เป็นบวกต่อกลุ่ม China play เราชอบ TOP PTTGC SCGP TKN ICHI

2. ตลาดเริ่มกังวลกลุ่มธนาคารในยุโรปอีกครั้ง

    • ล่าสุด CDS ของดอยซ์แบงก์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 200% สูงสุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้เกิดแรงขายอย่างหนักของกลุ่มธนาคารในยุโรป โดยดอยซ์แบงก์เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยมีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการราว 8.8 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ล่าสุดธนาคารเปิดเผยว่ามีกำไร 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565
    • ทั้งนี้ธนาคารกลางเยอรมันเตรียมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นเหมือนกรณี CS

Upcoming event

    • การประชุมกนง. 29 มี.ค. คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 1.75% เนื่องจากช่วง มี.ค.-ต.ค. 65 อัตราเงินเฟ้อไทยอยู่ในระดับที่สูง 4.65-7.86% เทียบกับงวดล่าสุด ก.พ. ที่ขยายตัวเพียง 3.79%YoY ถือเป็นสัญญาณที่ดีและเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของ ธปท. มากขึ้น ขณะที่ภาพทั้งปีเราคาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในรอบการประชุม 31 พ.ค. สู่ระดับ 200% (ล่าสุดในปี 2557) ก่อนจะคงที่ระดับดังกล่าวไปตลอดทั้งปี
    • ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ 30 มี.ค. GDP4Q US (ประมาณการครั้งสุดท้าย) คาดขยายตัว 2.7%YoY และ Manufacturing PMI (มี.ค.) จีน, 31 มี.ค. อัตราเงินเฟ้อยุโรป มี.ค. คาดชะลอตัวลงเหลือ 7.4% จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 8.5% และ Core PCE US คาดขยายตัวลดลงเหลือ 0.4%MoM จาก 0.6% ของเดือนก่อน

Investment Strategy

    • ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1570-1602 ชะลอความร้อนแรงหลังปรับขึ้นมาแล้วเกือบ 5% หลังคลายความกังวลวิกฤตธนาคาร และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แรงของเฟด ระยะสั้นรอปัจจัยด้านการเมืองหนุนตลาด
    • แนะนำ Selective buy กลุ่ม Big cap. ที่ Laggard HMPRO CPALL CPN AOT KBANK SCB JMT BDMS กลุ่ม Election Rally ADVANC KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นที่ได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุน เกี่ยวกับแนวโน้มการเกิดวิกฤตสภาพคล่องในภาคธนาคาร

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารท่ามกลางความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับเสถียรภาพการเงิน หลังจากราคาหุ้นดอยซ์แบงก์ดิ่งลง จากความวิตกูเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบจากถูกกดดันจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับสภาพคล่องของภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะสินเชื่อตึงตัว และอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงจนส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดลดลง หลังจากไม่สามารถยืนเหนือระดับสําคัญที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และการแข็งค่าของดอลลาร์ถ่วงราคาทองคําลงด้วย แต่สัญญาทองคำก็ยังคงปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

หุ้นเคาะไป คุยไป..SAT

  • ภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์ ก.พ. เพิ่มขึ้น 11.4%YoY เนื่องจากได้รับชื้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) มากขึ้น จึงผลิตส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้น 50.04% และ 7.44% ตามลำดับ โดยส่งออกไปยังทั้วโลกเพิ่มขึ้น ยกเว้น ยุโรป อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ในเรือขนส่งรถยนต์ไม่เพียงพอ
  • ด้านยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 6.4%YoY เนื่องจากได้รับชิ้นส่วนชิปเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายในประเทศดีขึ้น 9.1%YoY แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 3.94% ซึ่งลดลงจากการผลิตรถกระบะเพื่อการขนส่งลดลงถึง 54.13% เพราะขาดชิ้นส่วนชิป ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะลดลงถึง 23.5%
  • ในส่วนของงานมอเตอร์โชว์ปี 66 คาดว่ายอดขายรถยนต์ในงานปีนี้จะทะลุ 40,000 คัน ซึ่งมากกว่าปี 65 ที่ 34,000-35,000 คัน โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้จะมากขึ้น หนุนให้ยอดขายโดยรวมมากกว่าปีก่อน โดยในงวด ก.พ. 66 BEV มีตัวเลขจดทะเบียนกว่า 5.4 พันคัน เพิ่มขึ้น 5,061.6%YoY เนื่องจากนโยบายส่งเสริมกระตุ้นการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล จึงทำให้ราคาขายรถยนต์ไฟฟ้าลดลงอยู่ในระดับที่ประชาชนเข้าถึงได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้รถยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ เข้ามาตั้งฐานผลิตและจำหน่ายใน ประเทศไทยมากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจและสามารถเลือกซื้อรุ่นรถตามความนิยมของตนได้ เป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มยานยนต์อย่าง SAT
  • สำหรับเป้ายอดขายเติบโต 5%YoY สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 3.5% เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาช่วยหนุน อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะใกล้เคียงปี 2565 เท่ากับ 18.2% ส่วนยอดผลิตรถยนต์ในปี 2566 คาดการณ์ 1.9-1.95 ล้านคัน เติบโตเล็กน้อย 1-3.5% ส่วนรถแทรกเตอร์ (เครื่องจักรกลเกษตร) ที่มีสัดส่วน 20-25% ของยอดขายจะทรงตัวที่ 88,000 ต้นจากปีก่อน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาปริมาณฝนมากและน้ำท่วม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานกว่าปกติ ส่วนการส่งมอบรถไฟฟ้า ผ่านบ.ร่วมทุนอย่าง S-TRON คาดเตรียมส่งมอบรถในช่วงกลางปี 2566 เป็นต้นไป เบื้องต้นตั้งเป้าส่งมอบตั้งแต่ในครึ่งปีหลัง 200-300 คัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท
- Advertisement -