บล.บัวหลวง:
Siam Cement (SCC TB / SCC.BK)
SCC – กำไรไตรมาส 1/66 สูงกว่าคาดจากกำไรพิเศษ แนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 2/66 ดีขึ้นเล็กน้อย
สูงกว่าทุกคาดการณ์
SCC รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 16,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% YOY และ 105 เท่า QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษจากกำไรครั้งเดียวจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของธุรกรรมการควบรวมกิจการของ SCGJWD Logistics กำไรหลักจะอยู่ที่ 4,612 ล้านบาท ลดลง 40% YoY แต่เพิ่มขึ้น 205% QoQ ผลประกอบการสูงกว่าที่เราและตลาดคาดมาก เนื่องจากกำไรจากธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่มากกว่าคาด, รายได้อื่นๆ ที่มากกว่าคาด, และกำไรพิเศษ
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
ปัจจัยหลักที่กดดันกําไรหลักให้ปรับตัวลดลง YoY ได้แก่ 1) กําไรจากทุกธุรกิจ (ธุรกิจปิโตรเคมี, ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง, และธุรกิจบรรจุภัณฑ์) ที่ปรับตัวลดลง, 2) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ปรับตัวลดลง, 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 13.2% จาก 11.5% ในไตรมาส 1/65, และ 4) อัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น ในขณะที่ปัจจัยหลักที่หนุนกำไรหลักให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ ได้แก่ 1) กำไรจากทุกธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น, 2) ส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทร่วมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น, 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงจาก 13.9% ในไตรมาส 4/65, และ 4) รายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น
ธุรกิจปิโตรเคมีรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 1,356 ล้านบาท ลดลง 62% YoY (ปริมาณขายที่ลดลงและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง) แต่พลิกกลับจากรายงานขาดทุนในไตรมาส 4/65 (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น) ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างรายงานกำไรหลัก (ไม่รวมกำไรพิเศษเพียงครั้งเดียว) ที่ 1,507 ล้านบาท ลดลง 40% YoY (อัตรากำไรที่ลดลง) แต่พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/65 (อัตรากำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น) ในขณะที่กำไรสุทธิจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 1,220 ล้านบาท ลดลง 26% YoY (ปริมาณขายที่ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 171% (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และ EBITDA margin ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น)
แนวโน้ม
อุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี, ซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง, และบรรจุภัณฑ์น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องไปในไตรมาส 2/66 อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วไตรมาสที่ 2 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี, ซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง, และบรรจุภัณฑ์ จากแนวโน้มดังกล่าว กําไรหลักในไตรมาส 2/66 ของ SCC มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย QoQ หนุนจากกําไรจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ปรับตัวดีขึ้น (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น) จากมุมมองด้าน YOY ทําไรหลักของบริษัทคาดว่าจะอ่อนตัวลงต่อเนื่อง YoY เนื่องจากกำไร จากธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ลดลง (อัตรากำไรที่ลดลง)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
แม้เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2566 ลง 14% มาอยู่ที่ 23,434 ล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ของ SCGP แต่เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ขึ้น 30% มาอยู่ที่ 35,339 ล้านบาท เพื่อสะท้อนรายการพิเศษที่บันทึกในไตรมาส 1/66 ดังนั้น ราคาเป้าหมายด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2566 ของเราที่ 368 บาท (WACC 8.5%, และ Terminal Growth 2.0%) จึงไม่เปลี่ยนแปลง
คําแนะนํา
ผลประกอบการไตรมาส 1/66 ที่สูงกว่าตลาดคาดและแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 ดีที่ขึ้น น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้มูลค่าหุ้นปัจจุบันของ SCC ยังคงน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2566 ที่ 0.9 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)