บล.บัวหลวง:
Healthcare – กลุ่ม รพ. เติบโตได้ดีต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอน (NEUTRAL)
กลุ่มโรงพยาบาลจะเติบโตโดดเด่นกว่า SET หนุนโดยกำไรไตรมาส 1/66 ที่แข็งแกร่ง เราแนะนำสะสมหุ้น BDMS และ BH เป็นการเล่นระยะยาว (จากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์) แต่ในระยะสั้นยังมีโอกาสชื้อขาย BCH และ CHG, กำไรไตรมาส 2/66 เติบโต QoQ, กำไรหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะปรับตัวลดลงในไตรมาส 2/66
แนวโน้มทําไรไตรมาส 1/66 ของ BDMS และ BH เติบโตแข็งแกร่ง
ประมาณการทําไรหลักกลุ่มโรงพยาบาลในไตรมาส 1/66 ของเราอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท ลดลง 27% YoY แต่เพิ่มขึ้น 5% QoQ เนื่องจากกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง (BCH และ CHG) เราคาดรายได้กลุ่มโรงพยาบาลอยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 10% YoY และทรงตัว QoQ และคาดอัตรากำไรหลักอยู่ที่ 16.2% ลดลง 3.8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 0.8% QoQ เราคาดว่า BH จะรายงานกําไรโดดเด่นที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% YoY และ 2% QoQ และเป็นสถิติใหม่ โดยได้แรงหนุนจากผู้ป่วยต่างชาติ BDMS รองลงมาโดยคาดกําไรหลักที่ 3.4 พันล้านบาท ทรงตัว YoY และเพิ่มขึ้น 9% QoQ (เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดรองจากไตรมาส 1/65) นอกจากนี้ เราคาดกําไรหลักของ CHG ที่ 260 ล้านบาท (ลดลง 81% YoY และ 9%) และกําไรหลัก BCH ที่ 253 ล้านบาท (ลดลง 88% YoY และ 6%)
ในไตรมาส 2/66 เราคาดการเติบโตจากกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง เนื่องจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะชะลอตัวในช่วงเดือนรอมฎอนในเดือนเม.ย. 2566 แต่โรงพยาบาลขนาดกลางจะเติบโต QoQ ไตรมาสแรกของปี จํานวนผู้ป่วยในไทยจะชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาล
CLMV จีน และฝั่งตะวันออกกลางจะหนุนธุรกิจในปี 2566
จากโมเมนตัมที่แข็งแกร่งที่ได้เห็นจนถึงตอนนี้ เราคาดว่าการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปีนี้ ในบรรดาประเทศหลัก เรามองเห็นช่องว่างสําหรับการเติบโตของผู้ป่วยจากประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยยังไม่กลับสู่ระดับช่วงก่อนโควิด เรายังเห็นขอบเขตการเติบโตของผู้ป่วยจากจีนและซาอุดีอาระเบีย โดยพิจารณาจากฐานที่ต่ำ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ BH มากที่สุด เนื่องจากธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็น 64% ของรายได้ในปี 2565
แนวโน้มการเติบโตระยะยาวสําหรับกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่
สําหรับปีนี้ภาพกลุ่มโรงพยาบาล เราแนะนำซื้อ BDMS และ BH เราประมาณการเบื้องต้นในปี 2566 กำไรหลักกลุ่มโรงพยาบาลที่เราให้คำแนะนำจะอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% YoY เนื่องจากกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง เรา คาดกําไรหลักในปี 2566 ที่ 1.8 พันล้านบาทสําหรับ BCH ลดลง 42% YoY และ 1.4 พันล้านบาทสําหรับ CHG ลดลง 48% YoY รายได้รวมกลุ่ม โรงพยาบาลในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.39 หมื่นล้านบาท ลดลง 2% YoY เนื่องจาก รายได้ที่เกี่ยวข้องกับโควิดที่ลดลงของ BCH และ CHG
ในทางตรงกันข้าม เราคาดกำไรฟื้นตัวที่ 12% YoY สำหรับ BH และ 3% สำหรับ BDMS โดยได้รับแรงหนุน จาก: 1) อุปสงค์จากผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน และโรคเรื้อรัง 2) ธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งเราคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2566 และ 3) HealthTech (telemedicine การดูแลสุขภาพที่บ้าน และการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่)
มูลค่าหุ้น
ในระยะสั้นเราชอบ BCH และ CHG แต่ในระยะยาวเราชอบ BDMS และ BH