บล.พาย:
HMPRO – Home Product Center PCL อากาศร้อนหนุนกำไรไตรมาส 2/23
มองบวกต่อเป้าหมายผู้บริหารต่อการดำเนินงานปี 2023 เราคาดว่ากำไรไตรมาส 2/23 จะโต YoY และ QoQ จากอุปสงค์เครื่องปรับอากาศที่สูง เพราะอากาศที่ร้อนกว่าปีที่แล้ว บวกกับแคมเปญการตลาด “เก่าแลกใหม่” การขยายสาขา Mega Home เชิงรุก และรายได้ที่โตขึ้นจากสาขาย่านท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท
คาดกําไรไตรมาส 2/23 ออกมาแข็งแกร่งอีกไตรมาส
- HMPRO เปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ชื่อ “เก่าแลกใหม่” ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2023 สินค้าส่วนใหญ่ที่สามารถนำมาแลกใหม่ได้คือ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า เราเชื่อว่าแคมเปญนี้จะช่วยผลักดันยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นได้ 1%-2% (กลุ่มนี้คิดเป็น 20%-25% ของยอดขายรวม)
- คาดว่าแคมเปญข้างต้น บวกกับบริการใหม่เกี่ยวกับการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ และอุปสงค์เพิ่มเติมในกลุ่มเครื่องทำความเย็นจะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในเชิง YoY ขึ้นได้ระดับหลักหน่วยกลางในช่วงไตรมาส 2/23 หนุนจาก SSSG รวมที่แข็งแกร่งในเดือน เม.ย. 2023 ที่ +6%YoY หลัก ๆ มาจากสาขา HomePro ที่ +7% แต่ SSSG ของ Mega Home นั้นลดลง 2% ส่วน HomePro มาเลเซียทรงตัว YoY
- คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ทั้งปี 2023 จะเผชิญแรงกดดันจากส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นจาก Mega Home ซึ่งเป็นส่วนที่มี GPM ต่ำกว่าสาขารูปแบบ HomePro อยู่ 3%-4% โดยเราประเมินอย่างรัดกุมว่า GPM จะโต 6bps YoY ในปี 2023 เทียบเป้าหมายของบริษัทที่ 20bps YoY (GPM ไตรมาส 1/23 โต 9bps) บริษัทจะจัดสรรงบลงทุน 7-8 พันล้านบาทสำหรับการขยายสาขาใหม่ 10 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีเครือข่ายสาขารวม 127 สาขา ณ สิ้นปี 2023
สรุปผลประกอบการไตรมาส 1/23
- SSSG ไตรมาส 1/23 โต 5.8%YoY ประกอบด้วย HomePro +5.8% ส่วน Mega home ทรงตัว YoY และ HomePro มาเลเซียโต 7.6% SSSG ที่เป็นบวกนี้ได้แรงหนุนจาก SSSG หลักสิบในภาคใต้ ที่สามารถชดเชย SSSG ที่ติดลบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้
- กำไรที่โต YoY ในไตรมาส 1/23 ได้แรงหนุนจาก 1) SSSG ที่แข็งแกร่ง จากยอดขายย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและโครงการช้อปดีมีคืน ที่ครอบคลุมตั้งแต่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2023 2) การขยาย Mega Home อีก 3 สาขา 3) อัตรากำไรสินค้าที่โต 9bps YoY กำไรไตรมาส 1/23 ที่ลดลง QoQ เป็นผลจากปัจจัยตามฤดูกาล ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น และต้นทุนจากการขยายสาขาใหม่
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าหุ้นไม่แพง
ด้วยแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่สดใส และกำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง หนุนจากการขยายสาขา Mega Home ในเชิงรุก มาตรการกระตุ้นภาครัฐหลังเลือกตั้งเสร็จ และมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดระดับ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี เราจึงแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 8.6%, TG 3%) อิง 31xPE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย
Revenue breakdown
- รายได้จากการทำสัญญากับลูกค้า
บริษัทจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภทดังนี้:
- กลุ่ม hard line: สินค้าตกแต่งบ้าน สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัว และอุปกรณ์ในครัวเรือน
- กลุ่ม soft line: เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งในครัวเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้าและความสว่าง
- บริการเกี่ยวกับบ้าน: 1) บริการตกแต่งและปรับปรุง เช่น ปรับปรุงห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 3D 2) บริการติดตั้ง ย้าย และซ่อมแซม 3) บริการตรวจสอบ ทำความสะอาด และบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้า 4) บริการล้าง ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ และ 5) บริการปรับปรุงบ้านและพื้นที่ภายในบ้าน
- รายได้จากบริษัทย่อยแบ่งเป็น 12% จากไทย และ 2% จากกลุ่ม CLMV
- รายได้อื่น ๆ จากค่าธรรมเนียมภายในร้าน