บล.ฟิลลิป:

แสนสิริ – SIRI 1Q66 กำไรพุ่ง +423%y-y

Key Point

1Q66 ยังเปิดโครงการไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นยอดขายที่ต่อเนื่องจากโครงการเดิม ยอดโอนเติบโตขึ้น y-y แต่ลดลง q-q จากกลุ่มแนวราบที่หายไป, และมีกำไรพิเศษจากการขายโรงเรียน 623 ลบ., กำไรสุทธิ 1,582 ลบ. +423%y-y -11.7%q-q, 2Q66 คาดกำไรอ่อนตัว q-q ไตรมาสนี้ยังไม่เห็นกำไรพิเศษ แต่ยังเติบโต y-y จากยอดโอน, 2H66 เปิดโครงการมากขึ้น คาดปี 66 กำไร 4,619 ลบ. +7.9%y-y, ราคาพื้นฐาน 2.24 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

1Q66 โตสุดในกลุ่มอสังหาฯ

1Q66 Pre-sales 8,088 ลบ. +35%y-y -18%q-q ยังเปิดโครงการไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นยอดขายที่ต่อเนื่องจากโครงการเดิม, รายได้โอนอสังหาฯ 6,754 ลบ. +57.5%y-y โดยหลักมาจากโครงการนาราสิริ-กรุงเทพกรีฑา บุราสิริ-วัชรพล เศรษฐสิริ-จรัญปิ่นเกล้า และคอนโดจาก XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท, แต่อ่อนตัว -43.5%q-q จากกลุ่มแนวราบที่หายไปบางส่วน จากการยกเลิกผ่อนคลาย LTV, GPM อสังหาฯ 35.8% ทำได้สูงกว่าปี 65, SG&A เพิ่มขึ้น y-y ตามรายได้โอนที่มากขึ้น และค่าธรรมเนียมโอนอสังหาฯ ปีนี้ที่เพิ่มจากปีก่อนมาเป็น 1.0%, แต่ลดลง 3-4 จากเมื่อ 4Q65 มีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงาน, ส่วนแบ่งกำไร +y-y -q-q จากการโอนโครงการบุราสิริ-กรุเทพกรีฑา แต่โอนน้อยกว่า 4Q65, มีกำไรก่อนรายการพิเศษ 876 ลบ. +189.4%y-y -48.9%q-q และหากรวมกำไรพิเศษจากการขายโรงเรียน และการรับเงินจองจะมีกำไรสุทธิ 1,582 ลบ. +423%y-y -11.7%q-q

คาดยอดโอนเติบโตขึ้นทุกไตรมาส

2Q66 คาด Pre-sales แตะระดับ 10,000 ลบ. จากโครงการที่เปิดมากกว่าเดิม, ส่วนรายได้โอนยังโตต่อเนื่องจากโครงการบูก้าน-กรุงเทพกรีฑา และยังมีนาราสิริ-วัชรพล ที่โอนมาต่อเนื่อง จะยังคงทำให้ GPM อยู่ในระดับดีอยู่ และมีคอนโด The Move และ dcondo ครบกำหนดโอนเข้ามาช่วยเสริม, คาดกำไรก่อนรายการพิเศษโต y-y และ q-q หากไตรมาสนี้ไม่มีกำไรพิเศษเข้ามา อาจทำให้กำไรสุทธิ +y-y แต่ -q-q, เป้ารายได้โอนปีนี้ 37,600 ลบ. ปัจจุบันมี backlog รองรับแล้ว 52% และ 2H66 จะเปิดโครงการมากกว่า 1H66, คาดปี 66 กำไรก่อนรายการพิเศษ 3,889 ลบ. +3.3%y-y และกำไรสุทธิ 4,619 ลบ. +7.9%y-y

นโยบายขึ้นค่าแรง

ผู้บริหารแจ้งผลกระทบจากการปรับค่าแรงจะทำให้ต้องปรับราคาบ้านเพิ่ม 8-10% และอาจปรับได้จริงในต้นปีหน้า แต่ SIRI มีการปรับพอร์ตขึ้นมาอยู่ในระดับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น และในบางโครงการเริ่มมีการนำ Precast มาใช้ ทำให้สร้างบ้านได้เร็วกว่าและรับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงน้อยกว่า ซึ่งนโยบายนี้กลับมองเป็นประโยชน์ของปีนี้ในการช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ขณะช่วงที่ราคาอสังหาฯ ยังไม่ปรับราคา ช่วยกระตุ้นยอดขายได้อีกทาง

ราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 2.24 บาท/หุ้น อิง P/E 8.2 เท่า

ทางฝ่ายฯประเมินราคาหุ้นโดยใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี เนื่องจากสะท้อนภาพของธุรกิจปัจจุบันได้เป็นอย่างดีอยู่ที่ 8.2 เท่า ราคาพื้นฐานปี 66 อยู่ที่ 2.24 บาท/หุ้น ปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าราคาพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ /อัตราการจ้างงาน /อัตราดอกเบี้ย
  2. ทำเลที่ตั้ง, ลักษณะโครงการ ความสมดุลย์ของอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย
  3. นโยบายลงทุนภาครัฐ
- Advertisement -