วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”
แนวรับ 1,525 / 1,520 แนวต้าน 1,540 / 1,545 คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากต่างประเทศ ตัวเลขแรงงานสหรัฐยังแกร่งแต่คาด FED จะยังคงดอกเบี้ย รวมทั้งราคาน้ำมันดีดแรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานช่วยดึง SET ขึ้นได้บ้าง

Our View? “ฟื้นในกรอบจำกัด”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,525 / 1,520 และแนวต้านที่บริเวณ 1,540 / 1,545 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน พ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 3.39 แสนตำแหน่งมากกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 1.95 แสนตำแหน่ง สะท้อนการจ้างงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ลดความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง (Hard Landing) ลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขค่าจ้างงานรายชั่วโมง เดือน พ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 4.3% YoY และ 0.3% MoM ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด บ่งชี้อัตราเงินเฟ้อคาดยังอยู่ใกล้กับที่ตลาดประเมินไว้ สอดคล้องกับตัวเลขต้นทุนแรงงานต่อหน่วย (ULC) ใน 1Q’66 ที่ประกาศออกมาก่อนหน้า ซึ่งเป็นมาตรการวัตรเงินเฟ้อตัวหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับตัวขึ้นเพียง 4.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่เรายังคงประเมิน FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปในการประชุม FOMC วันที่ 13-14 มิ.ย. นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อจากการที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงต่อไปก่อน โดยล่าสุด CME FED Watch Tools กลับมาให้น้ำหนักว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00- 5.25% ที่น้ำหนักราว 80.0%+/- จากก่อนหน้าคาดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มองเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้
อีกทั้งเรายังคาดว่าหุ้นในกลุ่มพลังงาน คาดจะปรับตัวขึ้นหนุนตลาดได้จากการที่สัญญาราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น แม้ผลการประชุม OPEC+ ในวันที่ 4 มิ.ย. ออกมาคงมาตรการปรับลดกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิมไปจนถึงสิ้นปี’66 แต่ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยสมัครใจลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.ค. คาดจะกระตุ้นความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว ในช่วง 2H′66 คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นรีบาวด์ขึ้นได้
สําหรับปัจจัยภายในประเทศวันนี้แนะนำติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +1.60% YoY และ +0.10% MoM ยังอยู่ในภาพของการชะลอตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนความสามารถในการจัดการเงินเฟ้อได้ดี อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดตลาดหุ้นไทยยังคงถูกจำกัด Upside จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังเป็นปัจจัย Overhang กดดันตลาดได้อยู่ โดยต้องติดตามการประกาศรายชื่อ ส.ส. อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 14 ก.ค. 66 ซึ่งจะส่งผลให้ประเด็นอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะการพิจารณาการถือหุ้นสื่อของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราคาดว่า กกต. จะส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป มองเป็นสุญญากาศทางการเมือง และทำให้การผลักดันนโยบายใหม่ๆ ล่าช้าออกไป คาดจะสร้างบรรยากาศความไม่แน่นอนให้ตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ทั้งนี้เรา ยังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1) หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ปรับตัวขึ้นได้ จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3). หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว 23.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวพื้นตัวขึ้นได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “CPF”
- กลยุทธ์ เล่นรีบาวด์ แนวรับ 20.30 / 20.00 Target 21.30 / 22.30 Stop <19.80
- เรามองราคาหุ้นปรับตัวลงรับรู้ความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของ CPF ที่คาดยังคงอ่อนแอต่อไปจากราคาอาหารตกต่ำไปในระดับหน่ึงแล้ว ขณะที่โครงการซื้อคืนหุ้นคาดจะช่วยจำกัด Downside ระยะสั้นได้บ้าง
- ทางเทคนิค ราคาเริ่มยก Low พยายามสร้างกรอบรีบาวด์ เครื่องมือ MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนะเล่นรีบาวด์










