บล.กรุงศรีฯ:
INVESTMENT STRATEGY – สัญญาณเบื้องต้นของภาวะ disinflation?
What’s new?
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยลดลงในอัตราที่เร็วขึ้นในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 0.86% yoy จาก 1.32% ในเดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.38% yoy สูงขึ้นเล็กน้อยจาก 0.23% ในเดือนก่อนหน้า ที่น่าสนใจคือ ดัชนีราคาเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหดตัวลง 0.01% ทั้งนี้ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.19% เข้าใกล้ขอบบนของเป้าเงินหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยราคาสินค้าในหมวดอาหารเพิ่มขึ้น 1.49% yoy ในขณะที่ราคาสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารลดลง 0.38% ทั้งนี้ ราคาพลังงานที่หดตัวลง 3.2% อาจจะดีดตัวกลับขึ้นมาแรงในเดือนสิงหาคม เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบขยับขึ้นมา 1.2% ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม เราไม่คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะกับอัตราเงินเฟ้อโดยรวม เพราะสินค้าหมวดพลังงานมีน้ำหนักเพียงประมาณ 12.3% เท่านั้น เมื่อเทียบกับสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารซึ่งมีน้ำหนักถึงประมาณ 59%
Analysis
แม้ว่าเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอย่างมากอาจจะเป็นผลมาจากฐานที่สูงในปีที่แล้ว แต่พลวัตรของอัตราเงินเฟ้อรายเดือนอาจกำลังบ่งบอกถึงการก่อตัวของภาวะ disinflation ในไทย ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในขาลงมาระยะหนึ่งแล้ว ยกเว้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกัน การดำเนินนโยบายการเงินที่ผลักให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวกจะยังคงฉุดรั้งอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงเดือนต่อ ๆ ไป เมื่อพิจารณาจากกราฟ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจมีสหสัมพันธ์เชิงลบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริง โดยจะมีช่วงเหลื่อมเวลา (lag time) ประมาณสามเดือน ซึ่งเมื่ออิงจากถ้อยแถลงของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ระบุถึงความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น และเงินเฟ้อจะกลับมาสูงขึ้นอีก เราจึงคิดว่ามีโอกาสสูงที่ ธปท. อาจจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps ในการประชุม กนง. นัดหน้า ซึ่งเรามองว่าจะอาจจะเป็นการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากเกินไป (overtightening) ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ disinflation ในระยะต่อไป









