เน้นพลังภายใน / 1,545-1,555

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งกรอบจำกัด : หลังวานนี้ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐออกมาที่ 216 พันราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 234 พันราย สะท้อนภาพการฟื้นตัวของตลาดแรงงานท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนในทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟด เนื่องจากการจ้างงานและค่าแรงรายชั่วโมง เป็นปัจจัยสำคัญที่เฟดต้องการควบคุมไม่ให้เติบโตมากเกินไป ขณะที่คณะกรรมการเฟดหลายท่านยังสงวนความเห็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งถัดไป ก่อนจะมีประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดย CPI คาดขยายตัว 3.6% y-y เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.ที่อยู่ที่ 3.2% ทำให้มอง Sentiment การลงทุนจากภายนอกยั้งไม่ดีนัก จึงมองหุ้น Domestic Play ในช่วงนี้อาจปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าด้วยมีปัจจัยการเมืองชัดเจน และนโยบายของรัฐบาลใหม่สนับสนุน ขณะที่วันนี้ราคาน้ำมันดิบมีจังหวะพักตัวลงมาเล็กน้อยแต่ยังคงทิศทางขึ้นได้ หลังจีนออกมาเผยการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% m-m และ 30%y-y หลังโรงกลั่นในจีนแห่กักตุนน้ำมันเพื่อหวังทำกำไรในช่วงราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ด้าน EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาลดลง 6.307 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.064 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์น้ำมันแข็งแกร่ง มองเป็นโอกาสเข้าสะสมของกลุ่มพลังงานต้นน้ำหากราคาปรับตัวลง ด้านนักลงทุนต่างชาติวานนี้ขายสุทธิในหุ้นไทย 850.16 ล้านบาท โดยเป็นการขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 นับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. โดยมีมูลค่าขายสุทธิ YTD อยู่ที่ 139,785 ล้านบาท ขณะที่ MTD ขายสุทธิอยู่ที่ 4,587 ล้านบาท จึงมองหุ้นขนาดใหญ่อาจปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากขาดแรงพยุงจากนักลงทุนต่างชาติ
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) Domestic Play : CENTEL, CPALL, CPAXT, CRC, SHR, MINT, AMATA 2) Energy Play : PTTEP, BANPU 3) บาทอ่อนค่า : KCE,CPF, HANA, TU, CFRESH 4) Selective :SPALI, NEX, AH, BYD

ปัจจัยบวก

  • ศรีลังกาได้ยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้ารถบรรทุกและยานยนต์ขนาดใหญ่จากไทย แต่ยังคงห้ามนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคลประเภทรถยนต์นั่ง
  • รมว.อุตสาหกรรม มอบนโยบายเร่งด่วนทำทันทีใน 3 เดือน ด้วยการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพ ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมผลักดันมาตรการ EV 3.5 เพื่อสานต่อนโยบายขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าเป็น EV 100% ในปี 69
  • นายก ชี้ ดิจิทัลวอลเล็ต “ผู้ว่าฯธปท.” เห็นด้วยเรื่องดี ทั้งแนะระบบการคลังระยะกลาง-ยาว ยัน ใช้ Blockchain ปีหน้ามาแน่

ปัจจัยลบ

  • กกร.ปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือโต 2.5-3.0% จากเดิมคาด 3.0- 3.5% หลังส่งออกยังฟื้นยาก
  • SCB EIC ระบุราคาข้าวโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี ซึ่งราคาข้าวโลกที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ จะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อของไทยในระยะต่อไป
  • ไนท์แฟรงค์ มองภาพรวมทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมครึ่งปีหลัง ยังคงทรงตัวจากครึ่งปีแรก แม้ว่าจะมีมาตรการออกมากระตุ้นการท่องเที่ยวในการให้ฟรีวีซ่า มองนทท. เน้นไปทางท่องเที่ยวมากกว่าที่จะเข้ามาลงทุน
  • GDP ญี่ปุ่นขยายตัว 4.8%y-y ต่ำกว่าตลาดคาดว่าจะขยายตัว 5.5% y-y หลังเอกชนลดการลงทุน

PICKS OF THE DAY

SPALI BUY

  • เป้าหมาย 22.30/23.00 แนวรับ 21.40
  • 3Q66 รายได้เติบโต q-q: คาดรายได้โอน 3Q66 เติบโต q-q จากคอนโด Supalai loft sathorn-ratchapruek ที่ยังเหลือ Backlog รอโอนจาก 2Q66 อีกกว่า 50% และยังมี Supalai Premier si phra ya-samyan ที่จะเข้ามาโอนใน 3Q66 ได้เพิ่ม ซึ่งทั้ง 2 โครงการขายแล้ว 100%
  • GPM ดีขึ้น q-q: มอง GPM ดีขึ้น q-q จากสัดส่วนรายได้ในไทยต่อรายได้จากออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้นกว่า 2Q66 ซึ่งรายได้จากอสังหาฯในไทยมี GPM ที่สูงกว่า, คาดว่ากำไรใน 3Q66 จะยังคงเติบโต q-q อย่างต่อเนื่อง

CENTEL BUY

  • เป้าหมาย  49.00/50.00 แนวรับ 47.00 
  • รายได้จากธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวดี: ธุรกิจโรงแรมที่โตy-y แต่ลดลง q-q ตามปัจจัยทางฤดูกาล โดยแรงหนุนหลักมาจากโรงแรมภายในประเทศซึ่งประกอบด้วยโรงแรมบริเวณต่างจังหวัดซึ่งมีรายได้ต่อห้องโต 67% y-y เป็น 2,462 บาท,โรงแรมบริเวณกรุงเทพฯที่มีรายได้ต่อห้องเพิ่มขึ้น 68% y-y ขณะที่ธุรกิจอาหารยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากร้านสาขาเดิม (SSSG) โต 5% y-y จากรายได้จากการทานในร้านและซื้อกลับบ้าน
  • คาด 2H66 ดีกว่า 1H66: คาด3Qกำไร ยังคงทรงตัวจากนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้ากว่า แต่กำไรจะกลับมาโตเด่นในช่วง 4Q ตามช่วง High season ของการท่องเที่ยว
- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน