บล.บัวหลวง:
Thai Coconut (COCOCO TB /COCOCO.BK)
COCOCO – ผู้นำน้ำมะพร้าวไทย สยายปีกสู่แดนมังกร
เราเริ่มต้นให้คำแนะนำ “ซื้อ “หุ้น COCOCO ให้ราคาเป้าหมาย ปี 2024 ที่ 11.60 บาท (อิง PER และคาดการณ์กำไร Base case) เรามองว่าบริษัทเข้ามาได้ถูกที่ ถูกเวลา จังหวะกำลังสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ไปพร้อมกับการบริหารประสิทธิภาพการผลิตที่โดดเด่น สร้างความน่าสนใจให้ตลาด หนุน Valuation มีโอกาส Re-rate ขึ้น
อุตสาหกรรมมะพร้าวไทยยังไปอีกไกล และ COCOCO มาถูกที่ ถูกเวลา
COCOCO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากมะพร้าว (เดิมเน้น กะทิ และพลิกกลยุทธ์มาเน้นน้ำมะพร้าว) โดยมีการคาดกันว่ามูลค่าตลาดนํ้ามะพร้าวโลกกว่า 1.7-2.2 แสนล้านบาท และจะเติบโตเฉลี่ยราวๆ 14.8-16.5% ในช่วง 5-10 ปีจากนี้ (ถือว่าเติบโตสูงมาก) และจุดเด่นของไทยคือมีแหล่งมะพร้าวน้ำหอมที่กำลังนิยม และบริษัทก็เร่งขยายโรงงานส่วนนี้บนทำเลทอง จ.ราชบุรี โดยใน 5M23 บริษัทเป็นเบอร์ 1 การส่งออกน้ำมะพร้าวไทยไปจีน แล้ว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนจีนกำลังนิยม (มองมะพร้าวคู่กับทุเรียน) และจุดเด่นของ COCOCO คือ ความสามารถในการ Secure แหล่งวัตถุดิบไปพร้อมกัน ทำให้ปัจจุบันกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ด้านค้าปลีก/ขายสินค้าอุปโภค บริโภคชั้นนำของจีน เข้ามาติดต่อจ้างผลิตสินค้าไปขายที่จีนจำนวนมาก
จุดเด่น มีเคล็ดลับบริหารวัตถุดิบ / ต้นทุน-ค่าใช้จ่าย แก้ Pain point สำคัญ
ปัญหาเรื่องวัตถุดิบเป็นประเด็นหลัก และหากทำได้ดีจะช่วยสร้างชื่อเสียงกับลูกค้า และลูกค้าสำคัญรายใหญ่ๆ มั่นใจเลือกใช้บริการผู้ประกอบการรายกลาง-ใหญ่มากกว่ารายย่อยๆ ขณะที่ Supplier ด้านวัตถุดิบ ก็มักจะเจรจากับรายใหญ่ๆ ที่มั่นคงกว่า เป็นข้อสรุปว่า COCOCO อยู่ในตำแหน่งที่ “ถูกเลือก” จากทั้งฝั่งผู้ซื้อสินค้า และผู้ขายวัตถุดิบ
กลยุทธ์การจัดวัตถุดิบมีกลยุทธ์หลักๆ คือ 1) ทำเลที่ตั้งโรงงานใน จ. ราชบุรี 2) มีแหล่งวัตถุดิบในกลุ่ม 3) มีการวางแผนร่วมกับผู้รวบรวมผลผลิต 4) มี การสั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม) ซึ่ง พบว่าฤดูกาลมะพร้าวไม่ตรงกันพอดี ช่วยเกลี่ยต้นทุนในระหว่างปี นอกจากนี้ ยังได้คิดค้นกรรมวิธีลดความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบสําคัญที่มีอายุยาวกว่า ควบคู่กับพัฒนากระบวนการผลิตให้สอดรับ ซึ่งพัฒนามาระยะหนึ่ง และได้ผลดีใน 1H23 ที่ GM ขึ้นมาสูง และเสถียรแล้ว
เตรียมสยายปีกโตต่อในโลกอาหารยุคใหม่ แบบมี New S-curve
กลยุทธ์การเติบโตระยะยาว COCOCO รู้ดีว่าเพียงแค่ผลิตภัณฑ์มะพร้าวอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ได้วางการขยายไปยังธุรกิจด้านอาหารอื่นๆ 3 ธุรกิจ 1) ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง โดยจะเน้นกลุ่มสุนัขและแมว และมีแบรนด์ ของตัวเองชื่อ Moochie ซึ่งปัจจุบันเรายังไม่ใส่ในประมาณการมาก (เก็บไว้เป็น Upside) 2) ผลิตและจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพจากโปรตีนพืช (Plant based food) และ 3) จำหน่ายชีสและเนยที่ทำจากพืช (ยังไม่ได้ดำเนินการ) โดยไอเดียในการทำการตลาดจะใช้จุดแข็งของการเป็น Trading company เดิม และมีฐานลูกค้ากระจายตัว 90 ประเทศทั่วโลก เป็นตัว Spring Broad
เลือกเข้ามาในช่วงที่กำลังเติบโตแรง สร้างฐานใหม่ไปพร้อมกับนักลงทุน
เราคาดกำไรหลัก ปี 2023 ที่ 470 ล้านบาท (+57% YoY) และปี 2024-26 เติบโตเฉลี่ย 25.2% ต่อปี (CAGR) โดยการเติบโตมาจากรายได้จากทั้งการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวหลังมีการเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 3.34 หมื่นตัน/ปี ในปี 2022 เป็น 1.10 แสนตัน/ปี ในปี 2023 (เพิ่มมาเรียบร้อย) และเป็น 2.18 แสนตัน/ปี ในปี 2024-26 รองรับการขยายตลาดไปที่จีน โดยพิสูจน์แล้วว่าใน 2Q23 ที่ผ่านมาหลัง Run สายการผลิตใหมเต็มไตรมาส ยอดขายเติบโตกว่า 32% YoY และกำไรหลักเติบโต 54% YoY
ทั้งนี้ หากอิงตามราคาหุ้น IPO ที่ 5.50 บาท ถือว่าเป็น Valuation ที่ถูกเมื่อเทียบกับการเติบโต โดยคิดเป็น PER ปี 2024 เพียง 11.7 เท่า (ค่าเฉลี่ยคู่เทียบในไทย 27.8 เท่า และต่างประเทศ 28.7 เท่า) และคิดเป็น PEG เทียบการเติบโตเฉลี่ยปี 2024-26 เพียง 0.5 เท่า เทียบกับคู่เทียบในไทยโดยเฉลี่ยที่ 1.5 เท่า ดังนั้น เราเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” โดยกำหนดราคาเป้าหมายอิง PER เฉลี่ยระยะ 5 ปีที่ผ่านมาของคู่เทียบกลุ่มเครื่องในไทยที่ 24.7 เท่า ได้ราคาเป้าหมายที่ 11.60 บาท (คำอธิบายเพิ่มเติมและการวิเคราะห์ Sensitivity Analysis ใน หัวข้อ Valuation & recommendation)