ฟื้นตัวระยะสั้น หลังแรงงานสหรัฐฯ ต่ำกว่าตลาดคาด
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.4% หลังจากสหรัฐฯรายงานตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ช่วยคลายกังวลภาวะดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 5.6% หลังจากสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบเบนซินปรับตัวขึ้นเกินคาด
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานการจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP ที่ 8.9 หมื่นราย ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.54 แสนราย ข้อมูลภายในพบว่าธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการจ้างงานมากกว่า 500 รายขึ้นไปมีการจ้างงานที่ลดลงถึง 8.3 หมื่นราย แต่การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นกลับพบว่าอยู่ในธุรกิจขนาดเล็ก-กลางที่มีจำนวนพนักงานในช่วง 1 – 500 ราย โดยอุตสาหกรรมหลักที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาคบริการ ภาคก่อสร้าง และภาคการเงิน ภายหลังจากทราบผลดังกล่าว พบว่า US Bond Yield 10 ปีชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยพร้อมกับ Dollar Index ที่อ่อนค่าเพียงเล็กน้อย สำหรับค่าเงินบาทพลิกมาแข็งค่าทดสอบระดับ 36.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดย CME FED Watch ล่าสุดยังให้น้ำหนักราว 77% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมสำหรับการประชุมเดือน พ.ย. ดังนั้นการที่สหรัฐฯรายงานแรงงานที่แย่กว่าตลาดประเมินไว้ระยะสั้น มองเป็นบวกแต่ให้น้ำหนักเพียงระยะสั้น มากกว่า เนื่องจากยังต้องรอติดตามอีกหลายตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอัตราการว่างงานในวันศุกร์นี้ หรือจนกว่าจะเห็นสัญญาณปรับลงอย่างมีนัยยะของ US Bond Yield ซึ่งจะเห็นว่าเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียอย่าง Nikkei ก็ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ข้อมูล ณ ช่วง 7.20 น. (+0.3%) แต่กับ SET INDEX วันนี้ประเมินเคลื่อนไหวกรอบ 1445 – 1460 แม้อาจได้ปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาจากแรงงานสหรัฐฯ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับฐานแรงจะสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินที่ 2.1 แสนราย เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองดัชนีปัจจุบันเหมาะสำหรับการสะสมเพื่อลงทุนระยะกลางขึ้นไปจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ โดย SET INDEX ซื้อขายเพียง 14.2x PE 2024 เน้นสะสมหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำธุรกิจ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) สื่อสาร (ADVANC) ศูนย์การค้า (CPN) ร้านอาหาร (M) ส่วนระยะสั้นการ Trading เน้นที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ตามการฟื้นตัวเด่นของ NASDAQ
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท) ผู้บริหารเชื่อว่ายอดขายและอุปสงค์ PCB ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในครึ่งแรกปี 2023 ขณะที่คาดว่ายอดขายครึ่งหลังปี 2023 จะอยู่ที่ราว $250-$255 ล้าน (+7%-10% HoH) ชี้เป็นนัยถึงยอดขายทั้งปี 2023 ที่ราว $485 ล้าน (-8% YoY) สอดคล้องกับที่เราคาด
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) กำไรก่อนหักภาษี (EBT) จากธุรกิจหลักในไตรมาส 2/23 จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) (กำไรสุทธิเฉพาะกิจการ 6.1 พันล้านบาท +21% YoY) และมี EBT คิดเป็น 73% ของทั้งหมด ส่วนธุรกิจขายส่งและค้าปลีกคิดเป็น 27% ของ EBT