รอแรงสนับสนุน / 1,410 – 1,425

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวในกรอบจำกัด : แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกต่อศก.ไทย หลังสศค.เผยกรณี Headline CPI เดือนต.ค. หดตัว 0.3% y-y เบื้องต้นมองว่ายังไม่เกิดภาวะเงินฝืด และมองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของศก.และนโยบายกระตุ้นศก.ของภาครัฐ จะช่วยให้เงินเฟ้อฝั่งอุปทานขยายตัวขึ้นได้ในอนาคต คาดเป็นปัจจัยช่วยคลายกังวลต่อภาวะการบริโภคเอกชน และเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้น นอกจากนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หลั รมว.แรงงาน เผยในปีนี้จะมีการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างแน่นอน แม้อาจไม่ใช่ 400 บาททั่วประเทศ เนื่องจากฐานค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละจังหวัดไม่เท่ากันก็ตาม ด้านแรงกดดันจำกัดทางขึ้นของ SET Index คาดมาจาก Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี ของสหรัฐฯ พี่ฟื้นตัวขึ้น ทดสอบระดับ 4.95% และ 4.67% ตามลำดับ
    ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง กอปรกับนักลงทุนยังรอติดตาม 1) การรายงานตัวเลขการค้าจีนเดือน ต.ค. ในวันนี้ ตลาดคาดการส่งออกหดตัว 3.5% y-y ดีขึ้นจากการหดตัว 6.2% y-y ในเดือนก.ย. การนำเข้าหดตัว 5.0% y-y ปรับตัวดีขึ้นจากการหดตัว 6.3% y-y ในเดือนก.ย. และดุลการค้าเกินดุล 8.1 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากการเกินดุล 7.78 หมื่นล้านเหรียญในเดือนก.ย. ทั้งนี้ ตัวเลขการค้าจีนที่ปรับตัวดีขึ้น/แย่น้อยลง จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของศก.จีน และเป็นแรงหนุนต่อตลาดหุ้นในภูมิภาครวมถึง SET Index และ 2) การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในคืนนี้ ซึ่งรวมถึง นายจอห์น วิลเลียมส์ ปธ.นิวยอร์ก เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค.
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) งบ 3Q66: AMATA, KCE, OR, PTT, PTTGC, SAPPE 2) จับจ่ายใช้สอย/ท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่อง : AAV, AOT, BA, BAFS, BJC, CPALL, SAWAD, TIDLOR 3) SET50: ITC, JMT และ 4) Selective play: ADVANC, GPSC, SCGP, WHA

ปัจจัยบวก

  • กรมเจรจาการค้าฯเผยออสเตรเลียได้ประกาศยุทธศาสตร์ศก.ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี 83 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการค้าการลงทุนในอาเซียน รวมถึงไทย คาดมูลค่าการค้าจะขยายตัวถึง 6.3% หรือประมาณ 343 พ้นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 83
  • ติดตามการประชุมครม, วันนี้ โดยปธ.คณะอนุกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เตรียมรายงานข้อสรปผลการหารือของ คุณะอนุกรรมการฯ นำเข้ามารายงานให้กับครม. รับทราบรายละเอียด ทั้งหมดในวันนี้ ซึ่งอาจเผยให้เห็นถึงความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว
  • Saudi Aramco เผยว่าทางบริษัทได้คงราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับน้ำมันดิบประเภท Arab Light ให้กับลูกค้าชาวเอเชียในเดือนธ.ค.ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนพ.ย.

ปัจจัยลบ

  • บาร์เคลย์สคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนม.ค. แทนที่จะเป็นเดือนธ.ค. ตามการคาดการณ์ก่อนหน้า และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนก.ย.67
  • Ifo เผยผลการสำรวจภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของเยอรมนี พบว่าในเดือนต.ค. บริษัท 22.2% ได้รายงานเรื่องยกเลิกโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 21.4% ในเดือนก.ย.ขณะที่หัวหน้าฝ่ายสำรวจของ Ifo เผยสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ โดยมีโครงการล้มเหลวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและราคาก่อสร้างที่สูงขึ้น
  • Accenture เผยผลสำรวจ โดยระบุว่าชาวอังกฤษวัยผู้ใหญ่เกือบ 2 ใน 3 วางแผนที่จะลดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวอังกฤษมีมุมมองเป็นลบต่อค่าครองชีพมากกว่าการสำรวจหลายครั้งที่ผ่านมา

PICKS OF THE DAY

KCE BUY
  • เป้าหมาย 59.00 / 60.00 แนวรับ 56.50 
  • เก็งงบ ออกวันนี้: ผู้บริหารเห็นคำสั่งซื้อกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก และกำลังผลิตกลับมาเป็นปกติที่ 85% ตั้งแต่ช่วงปลาย 3Q66 ส่วนค่าเงินบาทในช่วง 3Q66 ยังอ่อนค่าขึ้น q-q ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ KCE มากสุดในกลุ่มเพราะเป็น Natural hedge คาดรายได้ฟื้นตัว q-q และทำ GPM ได้ดีขึ้น q-q จากค่าเงินและต้นทุนเคมิคอล(supplied used) ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 30% ของต้นทุนขาย ยังมีแนวโน้มลดลง ลุ้นงบ 3Q66 ที่จะประกาศออกมาในวันนี้มีกำไรฟื้นตัว q-q ได้ดี
  • ยังมีแรงส่งต่อเนื่อง: หุ้น KCE ยังเป็นหุ้นที่คาดว่าจะติดโผเข้า SET50 ในรอบนี้ ที่จะประกาศรายชื่อในกลาง ธ.ค. ทำให้ช่วงนี้จะยังคงมีแรงส่งอยู่ต่อเนื่อง

PTT BUY

  • เป้าหมาย 34.00 / 35.00 แนวรับ 32.50
  • คาด 3Q66 กำไรฟื้นแรง : แนวโน้มกำไร 3Q66 ของบริษัทลูกส่วนใหญ่โตแรง โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นที่คาดกำไรโตได้ตามค่าการกลั่นที่พุ่งสูงใน 3Q66 รวมถึงจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน เนื่องจากน้ำมันดิบใน 3Q23 ปรับตัวขึ้นกว่า 9%q-q นอกจากนี้ผลกระทบจากการสนับสนุนนโยบายลดค่าไฟน่าจะไม่กระทบกำไร แต่จะกระทบกระแสเงินสดของปตท.บ้าง เนื่องจากปตท.ต้องเป็นผู้ออกส่วนต่างค่าก๊าซไปก่อนและเก็บคืนในภายหลัง
  • P/BV ค่อนข้างต่ำ : ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขาย P/BV เพียง 0.87x (-1.3 S.D. เทียบค่าเฉลี่ย 5 ปี) ที่ผ่านมาจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยปี 66 คาด Dividend Yield ที่ 5-6%
- Advertisement -