TU แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท

ราคาปลาทูน่ามีแนวโน้มลดลง โดยแตะ 1,500 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน ลดลงจาก 1,600 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ณ สิ้นเดือน ตุลาคม ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อ TU เนื่องจากราคาปลาทูน่าที่ลดลง น่าจะส่งผลให้ COGS ลดลงและอัตรากําไรขั้นต้นที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/23 เป็นต้นไป เราประมาณการว่าการมีส่วนร่วมของ COGS สําหรับ ปลาทูน่าคือประมาณ 43% ของ COGS ทั้งหมด เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท

ราคาทูน่าลดลงตั้งแต่เดือนกรกฏาคม

ในครึ่งแรกของปี 2566 ราคาวัตถุดิบปลาทูน่า (ธุรกิจปลาทูน่าคิดเป็น 43% ของรายได้) เพิ่มขึ้น 29% yoy สู่จุดสูงสุดที่ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อตันในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นมาราคาก็ลดลงเหลือ 1,500 เหรียญสหรัฐฯ/ตันในเดือน พฤศจิกายน 2023 และเราคาดว่าจะเป็นเช่นนั้นต่อไปในปี 2024 เราคาดว่าราคา ปลาทูน่าจะอยู่ที่ 1,500-1,600 เหรียญสหรัฐฯ/ตันในปี 2024F จาก 1,500-1,700 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ปีนี้ เราประเมินว่าหากราคาปลาทูน่าลดลง 100 เหรียญสหรัฐฯ/ ตัน อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น 0.7ppt และเพิ่มกำไรหลักในปี 2024F ขึ้น 11%

ยอดขายฟื้นตัวในปี 2024 จากความต้องการซื้อที่กลับมาเป็นปกติ

เราคาดว่ายอดขายในปี 2024F จะฟื้นตัว 5.1% เป็น 145.3 พันล้านบาท เนื่องจาก ความต้องการเพิ่มขึ้นและเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากการลดสต็อกหลังโควิด ซึ่งเป็นการพลิกกลับจากยอดขายที่ลดลง 11.2% ในปี 2023F เนื่องจากความต้องการลดลงหลัง โควิด ในช่วงโควิด (2020-2022) TU มียอดขายเติบโตแข็งแกร่ง เนื่องจากผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้นและบริโภคอาหารกระป๋องมากขึ้น

หุ้นปลอดภัยที่มีการจ่ายปันผลที่ดี

การประเมินของเราอิงตาม P/E ปี 2024 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เราคิดว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ของ TU อาจมีความยืดหยุ่น เนื่องจากผู้บริโภคอาจ บริโภคปลาทูน่าที่มีราคาถูกและเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมากขึ้น TU ยังให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดีที่ 4.3% (อ้างอิงจากปี 2567) TU ซื้อขายที่ 12.9x 2024F P/E ซึ่งเป็น valuation ที่ถูกที่สุดในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีการซื้อขายต่ำกว่ามูลค่า ตามบัญชี 14% (16.90 บาท) ความเสี่ยงหลักคือราคาวัตถุดิบที่ผันผวนซึ่งอาจส่งผล กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นและกําไรหลักของบริษัท