ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ลดลง 7 จุด (-0.51%) ปิดที่ระดับ 1,374 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นที่มีปัจจัยลบเฉพาะตัวกดดันดัชนี อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, ค้าปลีกและกลุ่ม Packaging

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

ประเมิน SET อ่อนตัว 1,365 – 1,370 จุด แม้คาดการณ์ว่า FED จะคงดอกเบี้ย 5.25 – 5.50% ในการประชุมครั้งนี้หลังดัชนี CPI ทั่วไปของสหรัฐ +3.1% YoY ตามคาด อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวลด้านต่อเนื่องจะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy

  • GULF GPSC BGRIM SCGP SCC EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง
  • KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนตัวลง
  • WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต

หุ้นแนะนําวันนี้

EPG (ปิด 7.10 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 8.75 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วสะท้อนจากผลกำไรสุทธิใน 2Q24 (ก.ค. – ก.ย.23) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 431 ล้านบาทสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส ขณะที่วันนี้ได้ Sentiment บวกจาก ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงส่งผลดีต่อแนวโน้มต้นทุนการผลิตที่ลดลงหนุนให้ GPM เพิ่มขึ้น

III (ปิด 10.20 ซื้อ/เป้า 14.80 บาท) ราคาร่วงลงราว 23% ในช่วง 2 เดือนที่ ผ่านมาทำให้ Valuation เริ่มน่าสนใจ ระยะสั้นมี Sentiment บวกอัตราระวาง ขนส่งทางอากาศฟื้นตัวแรงส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้า สายการบิน (GSA) ซึ่งในตลาดหุ้นไทยมี III ดำเนินการเพียงผู้เดียวโดยถือหุ้นผ่าน ANI ซึ่งกำลังจะเข้าซื้อขายพรุ่งนี้เป็นวันแรก)

บทวิเคราะห์วันนี้

Automotive sector, Banking sector, BEC, BCP

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. In line กับที่ตลาดคาดไว้ทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐาน: โดยมีอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ใน เดือน พ.ย. ที่ 3.1% ลดลงจาก 3.2% ในเดือน ต.ค. ตามที่ตลาดคาด ส่วนอัตรา เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ทรงตัวที่ระดับ 4% เท่ากับเดือน ต.ค. และเป็นไป ตามที่ตลาดคาดไว้เช่นกัน

(-) น้ำมันดิบร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน กังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงนานกดดันดีมานด์น้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 68.61 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 1) เงินเฟ้อลดลงช้ากังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน กดดันดีมานด์ในอนาคต ,2) ไม่มั่นใจข้อตกลงของกลุ่ม OPEC ลดการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเพราะเป็นแบบสมัครใจไม่ได้บังคับ

(+/-) คืนนี้มี FED Meeting จับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด, Dot Plot และ คาดการณ์ GDP ปีหน้าของสหรัฐ: เราคงมุมมองเดิมคาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% ตามเดิม ซึ่งตลาดรับรู้ไปแล้ว แต่มีสิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มและอาจ สร้างความผันผวนให้กับตลาด คือ การกล่าวถ้อยแถลงของประธานเฟดหลังการ ประชุม, FED Dot Plot บอกแนวโน้มและจํานวนครั้งในการลดดอกเบี้ยปีหน้า รวมไปถึงคาดการณ์ GDP ของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณการเกิด Recession

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(-) นายกรัฐมนตรีแถลงมาตรการแก้หนี้ทั้งระบบ ซึ่งเน้นแนวทางการลดดอกเบี้ย การปรับโครงสร้างหนี้ และยืดระยะเวลาผ่อนชำระ

(+) ครม. เห็นชอบฟรีวีซ่าให้กับชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้นไม่เกิน 30 วันเป็นกรณีพิเศษ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดย มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 ถึง 31 ธ.ค.

(+/-) นายกรัฐมนตรีแถลงมาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย วงเงินหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย

สหรัฐ 

(+/-) สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฏหมายห้ามนำเข้ายูเรเนียมจากรัสเซีย แต่มีการยกเว้นในกรณีที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับอุปทาน

(+) กระทรวงแรงงานรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือน.. yoy ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ปรับตัวขึ้น 4.0% ในเดือน.. yoy ส่งผลให้เริ่มมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในช่วงเดือน มี.ค. ปีหน้า

ยุโรป 

(+) อังกฤษ – สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยอัตราการว่างงานทั่วประเทศในช่วงเดือน..-ก.ย. 2566 อยู่ที่ 4.2%

(+) เยอรมนี – ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. จากสถาบัน ZEW อยู่ที่ระดับ 23.0 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 13.8

เอเชีย 

(+) ญี่ปุ่น – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ผลิตรายใหญ่ (PPI) ปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.3% yoy สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.1%

 

- Advertisement -