บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Supalai (SPALI.BK/SPALI TB)*
ผลประกอบการ 4Q66: กําไรดีกว่าคาดและน่าท้าทายสําหรับปีนี้
Event
ผลประกอบการ 4Q66/ปี 2566 และแนวโน้มธุรกิจปี 2567
Impact
กําไร 4Q66 ดีกว่าคาดช่วยหนุนให้กําไรปี 2566 อยู่ที่ 6 พันลบ. (-27% YoY)
กําไร 4Q66 ของ SPALI อยู่ที่ 2 พันลบ. (-7%YoY แต่ +69% QoQ) ดีกว่าเราและ Bloomberg consensus คาด ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1.0 หมื่นลบ. ดีกว่าเราคาดเล็กน้อยที่ 9.5 พันลบ. ส่วนอัตรากําไรขั้นต้นสูงเกือบ 35% และสัดส่วนรายจ่ายด้านการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้อยู่ที่ 11% ซึ่งดีกว่าที่เราคาดที่ 34% และ 13% ตามลําดับ โดยรวมแล้วกําไรปี 2566 อยู่เกือบ 6 พันลบ. (-27%YoY) ใกล้เคียงกับประมาณการเดิมของเราที่ 5.85 พันลบ. อย่างไรก็ตาม ยอดขายของโครงการแนวราบเติบโต 10% YoY อยู่ที่ 2.0 หมื่นลบ. แต่ยอดขายโครงการคอนโดฯ ลดลงถึง 33% YoY อยู่ที่ 1.05 หมื่นลบ. มาจากเพียงโครงการ 2 แห่งที่สร้างเสร็จด้วยมูลค่ารวม 3.8 พันลบ. ทางด้านอัตรากําไรขั้นต้นลดลง 3.3 ppt YoY อยู่ที่ 35.6% ตามยอดขายโครงการแนวราบที่ได้ margin ต่ำมีสัดส่วนสูงขึ้น ทั้งนี้ ในปีที่แล้ว SPALI มียอดพรีเซล การเปิดโครงการใหม่ และยอดโอนต่ำกว่าเป้าหมายอย่างมีนัยยะ
เรามองเชิงอนุรักษ์นิยมมากกว่าเป้าหมายของบริษัทปี 2567 พอสมควร
ในปี 2567 SPALI เผยเป้าแผนธุรกิจที่จะทําจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่สมมติฐานเราค่อนไปทางอนุรักษ์นิยมกว่าของบริษัทท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจอ่อนแอ อํานาจซื้อของผู้ซื้อหดตัวและมาตรการให้สินเชื่อเข้มงวด ขณะที่ ยอดรวม backlog ได้ทยอยลดลงเหลืออยู่ที่ 1.57 หมื่นลบ. (จาก 3.87 หมื่นลบ.ช่วงก่อนโควิด) ที่ซึ่งจํานวน 1.35 หมื่นลบ.จะบันทึกเป็นรายได้ในปีนี้ เหลือเพียง 2.2 พันลบ. ที่จะรับรู้รายได้ในปี 2568-2569F ยิ่งกว่านั้นสต๊อกบ้านยังคงเพิ่มขึ้นตลอดมาในช่วง 5-year CAGR (2562- 2566) ราว 15% ทางด้านส่วนแบ่งรายได้จากการลงทุนใหม่ของ SPALI ในประเทศออสเตรเลียน่าจะเริ่มรับรู้รายได้ช่วงกลางปี 2567F และเราประเมินอัตรากําไร (margin) ทรงตัว YoY
ปรับเพิ่มประมาณการกําไรปีนี้ขึ้นเล็กน้อย
เราปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2567 ขึ้นเล็กน้อยราว 5% อยู่ที่ 6.5 พันลบ. เติบโต 9% จากฐานปี 2566 ต่ำ นอกจากนี้ โครงการคอนโดฯ อีก 5 แห่ง มูลค่ารวมที่ 1.7 หมื่นลบ. (เฉลี่ยขายได้แล้ว 30% หรือที่ 5 พัน ลบ.) สร้างเสร็จพร้อมโอนได้ภายในปีนี้ หากมองอนาคตในปี 2568F อัตราการเติบโตกําไรน่าจะเป็นสิ่งท้าทายของบริษัทเพราะจํานวน backlog จะลดลงพอสมควรราว 882 ลบ. ดังนั้น SPALI ต้องมีความพยายามมากยิ่งขึ้นในการกระตุ้นรายได้ในอนาคต
Valuation & Action
เราคงคําแนะนําถือ เพราะมี upside จํากัดจากราคาเป้าหมายใหม่ปี 2567F ที่ 21.70 บาท (คิดเป็นส่วนลดจาก PE ที่ 6.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5 S.D.) จากเดิม 21.4 บาท ทั้งนี้ SPALI ประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) งวด 2H66 ที่ 0.75 บาทต่อหุ้น (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. 2567) คิดเป็นเงินปันผลต่อหุ้นรวมเต็มปี 2566 ที่ 1.45 บาท (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 7%) โดยที่อัตราการจ่ายเงินปันผล (payout ratio) ปี 2566 สูงอยู่ที่ 47% เทียบกับ 35-38% ในปี 2564-2565
Risks
ภาวะเศรษฐกิจ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้น ท่ามกลางการยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือนรวม ทั้งการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ