บล.ทิสโก้: 

Don Muang Tollway (DMT TB)

กำไรสุทธิลดลง QoQ จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

ผลประกอบการ 4Q23 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น DMT รายงานกำไรสุทธิใน 4Q23 จำนวน 240 ล้าน (+3.8% YoY แต่ลดลง 10.5% QoQ) กำไรสุทธิลดลงจาก 3Q23 เนื่องจากต้นทุนการให้บริการทางยกระดับเพิ่มขึ้นตามปริมาณการจราจรบนทางยกระดับที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานบำรุงรักษาทางยกระดับตามมาตรฐานการ บัญชีในเรื่องของประมาณการหนี้สินสำหรับการบำรุงรักษาทางยกระดับที่เพิ่มขึ้น เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง YoY และ QoQ จาก 66.5% และ 67% มาอยู่ที่ 61.5% สำหรับรายได้ค่าผ่านทางเติบโตอยู่ที่ 605 ล้านบาท (+9.7% YoY, +2.6% QoQ) ตามจำนวนรถใช้ทางด่วนที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 109,046 คันต่อวัน (+8% YoY, 1.5% QoQ) แบ่งเป็นจำนวนรถใช้ทางด่วนสัมปทานเดิม 69,530 คันต่อวัน (11% YoY, 2.4% QoQ) และสัมปทานส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ 39,516 คันต่อวัน (3.2% YoY, ทรงตัว QoQ) เนื่องจากเป็นช่วง high season สำหรับการท่องเที่ยว ทำให้กิจกรรมการเดินทางผ่านเส้นทางเพิ่มขึ้น สำหรับอัตราค่าผ่านทางเฉลี่ยต่อคันของอยู่ที่ 60.3 บาท (+1.7% YoY, +1.1% QoQ)

กำไรปี 2023 เติบโตจากปริมาณการใช้รถที่เพิ่มขึ้น

บริษัทรายงานกำไรสุทธิปี 2023 อยู่ที่ 1,001 ล้านบาท (+28% YoY) โดยรายได้ค่าผ่านทางเติบโตอยู่ที่ 2,325 ล้านบาท (+27% YoY) ตามกิจกรรมการเดินทางที่เพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตเมืองกรุงเทพมหานคร และการขยายชุมชนเมืองในแถบปริมณฑล ทำให้การเดินทางสูงขึ้นหลังการระบาดของ COVID-19 โดยปริมาณการใช้รถเฉลี่ยต่อวันตลอดทั้งปีเติบโตเฉลี่ยประมาณ 25% YoY อยู่ที่ 106,771 คันต่อวัน แบ่งเป็นจำนวนรถใช้ทางด่วนสัมปทานเดิม 65,300 คันต่อวัน และสัมปทานส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ 41,471 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2023 จากกิจกรรมการเดินทางที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตราค่าผ่านทางเฉลี่ยต่อ คันของทั้งปีอยู่ที่ 58.8 บาท (-0.5% YoY)

คาดกำไรปี 2024F เติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มปริมาณการใช้รถเติบโต

แนวโน้มปริมาณรถใช้ทางด่วนใน 2024F มีแนวโน้มเติบโตต่อจากากรฟื้นตัวของภาคธุรกิจและภาคการท่องเที่ยว และผู้ใช้เส้นทางยังคงเลือกที่จะใช้บริการทางยกระดับ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดบนถนนวิภาวดีรังสิต โดยคาดว่าจำนวนรถใช้ทางด่วนจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2024F โดยสมมติฐานของเราคาดจำนวนรถใช้ทางด่วนอยู่ที่ 117,448 คันต่อวัน (10% YoY) ในปี 2024F

คงประมาณการกำไรและมูลค่าที่เหมาะสมที่ 14.30 บาท

ประเมินการเติบโตระหว่างปี 2024-26F อยู่ที่ 12.8% ต่อปี (CAGR 3 ปี 2024-26F) ดังนั้น มูลค่าหุ้นที่เหมาะสมยังอยู่ที่ 14.30 บาท โดยคิดจากวิธิ Discount Cash Flow ด้วยสมมติฐาน WACC 9.2% โดยอิงจาก risk free rate ที่ 3.2% risk premium 6.4% Beta 1 และประเมินมูลค่าถึงสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2034 ปัจจัยเสี่ยงมาจากการไม่สามารถขึ้นค่าผ่านทางได้ และจำนวนรถใช้ทางด่วนที่ต่ำกว่าคาด

- Advertisement -