บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Bluebik Group (BBIK TB)

งบ 4Q66 ดีกว่าคาด พร้อมเดินหน้าเติบโตแข็งแกร่งในปี 67

ซื้อ เนื่องจากแนวโน้มกำไรโตแกร่ง และ Valuation น่าสนใจ

BBIK ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีของไทย เนื่องจากเราคาดการณ์ว่ากำไรหลักในปี 67 จะเติบโต 37% YoY ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจโดย BBIK ซื้อขายที่ PEG 1 เท่า ซึ่งเป็นอัตราส่วน PEG ที่ต่ำที่สุดในบรรดาบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ของเราไม่เปลี่ยนแปลงที่ 120 บาท (WACC 9.4%, Terminal Growth 3.4%) กำไรหลักไตรมาส 4/66 (+110% YoY) สอดคล้องกับประมาณการของตลาด แต่สูงกว่าที่เราคาดไว้ 5% และผู้บริหารตั้งเป้ารายได้เติบโต 50% ในปี 67 ปัจจัยบวกที่น่าจะหนุนราคาหุ้น BBIK คือกำไรรายไตรมาสและ Backlog ที่เติบโต

กำไรหลัก 4Q66 สูงกว่าที่เราคาด 5%

กำไรหลักไตรมาส 4/66 ที่ 80 ล้านบาท (+110% YoY, +5% QoQ) สอดคล้องกับประมาณการของตลาด แต่ดีกว่าที่เราคาดไว้ 5% เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่สูงกว่าคาดที่ 23 ล้านบาท (+772% YoY, +159% QoQ) ขณะที่รายได้ไตรมาส 4/66 ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ที่ 372 ล้านบาท (+167% YoY, +11% QoQ) โดย BBIK ปิดงบปี 66 ด้วยกำไรหลักเติบโต 112%จากการเติบโตของรายได้ 133%

Backlog เริ่มฟื้นตัว

ณ สิ้นไตรมาส 4/66 backlog อยู่ที่ 709 ล้านบาท (-14% YoY, +3% QoQ) หลังจากที่ backlog ลดลง QoQ ใน 3Q66 backlog กลับมาเติบโต 3% QoQ ใน 4Q66 เนื่องจากโครงการต่างๆ กลับมาเปิดประมูลกันอีกครั้งตั้งแต่เดือน ต.ค.66 เราคาดว่า backlog จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ ใน 1-2Q67 เนื่องจากบริษัทต่างๆ สรุปงบประมาณการลงทุนด้านไอทีในเดือน ม.ค.-ก.พ.67

5 ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในปี 67

ผู้บริหารเผย 5 ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในปี 67 ได้แก่ 1) สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มากขึ้น 2) synergy และการประหยัดจากขนาด (โดยเฉพาะจาก Vulcan) 3) การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Innoviz เป็น 85% จาก 55% 4) การขยายธุรกิจในต่างประเทศ (โดยเฉพาะเวียดนาม ) และ 5) การเติบโตอย่างยั่งยืนในบริการหลัก เราคาดการณ์การเติบโตของกำไรหลักปี 67 ที่ 37% เราประเมินว่าความสามารถในการประมูลโครุงการที่ขนาดใหญ่มากขึ้น และการประหยัดจากขนาดจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเป็น 22.1% ในปี 67 จาก 21.6% ในปี 66 นอกจากนี้ การยกเว้นภาษีที่ Vulcan (ได้รับสิทธิพิเศษจาก Bol ในเดือน ต.ค. 66) น่าจะส่งผลให้อัตราภาษีที่แท้จริงลดลงเหลือ 9% ในปี 67 จาก 12% ในปี 66

- Advertisement -