ความกังวล ก่อนสงกรานต์ / 1,365- 1,385

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ผันผวนในกรอบ: แรงกดดันจากความกังวลว่าเฟดจะชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากแต่ถูกบรรเทาลง ด้วยภาพกิจกรรมทางศก.ที่มีแนวโน้มคึกคักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงการประชุมครม.ที่อาจเป็นอีกแรงหนุน ทั้งนี้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง SET Index คาดถูกกดดันจาก US bond yield 2 ปี และ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.66 หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.67 เพิ่มขึ้น 3.03 แสนตน. สูงกว่าเดือนก.พ.67 และตลาดคาดที่ 2.7 แสนตน. และ 2.12 แสนตน. ตามลำดับ ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่ในเดือนก.พ.67 และตลาดคาดที่ระดับ 3.9% ตัวเลขแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลว่าเฟดอาจจะชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยขณะนี้ CME FedWatch Tool ให้น้ำหนักที่เฟตจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกคือเดือนก.ค.67 จากเดิมที่เดือนมิ.ย.67 ขณะที่ Volume การซื้อขายในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเบาบางลงจากการที่ตลาดหุ้นในไทยเปิดทำการเพียง 3 วันในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทางฝ่ายมองเทศกาลฯ ดังกล่าวจะเป็นแรงจำกัดทางลงของ SET Index ท่ามกลางแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยตามกิจกรรมทางศก.ที่มีแนวโน้มคึกคักขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่วันนี้ติดตามการประชุมครม. ซึ่งอาจเป็นอีก Sentiment หนุน หลังก.คลังเตรียมเสนอ 4 มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ อาทิ มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% และขยับระดับราคาจากไม่เกิน 3 ลบ. เป็นไม่เกิน 7 ลบ. ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 โดยก.คลังคาดจะส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 1.58% ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีมาตรการ นอกจากนี้ ติดตาม Entertainment Complex ที่อาจเข้าสู่ครม.ในวันนี้
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยว+Spending: AAV, AOT, AWC, BA, BCP, BTS, CPALL, CENTEL, ERW, MINT, LH, OR, SHR 2) Defensive play: BDMS, BH, PR9 3) ย้านฐาน+ยานยนต์: AH, AMATA, ROJNA, WHA และ 4) อสังหาฯ: SC, SPALI

ปัจจัยบวก

  • ม.หอการค้าฯคาดการณ์ว่าช่วงสงกรานต์ 5 วัน (12-16 เม.ย.) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 465,383 คน คาดสร้างรายได้ 11,802.25ลบ. สำหรับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,072.06 บาท โดยหากรวมเม็ดเงินหมุนเวียนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ในช่วงสงกรานต์ 5 วัน จะมีมูลค่า 140,636.2 ลบ. ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 0.79%
  • วิทยุการบินฯคาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในช่วงเทศกาลสงกรานต์รวม 16,307 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 20% y-y
  • ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เผยมียอดจองรถภายในงานรวมทั้งสิ้น 58,611 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.5%
  • บีโอไอร่วมกับ MG และเครือข่ายพันธมิตร ร่วมจัดงานใหญ่ “MG Sourcing Day” เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดการเจรจาธุรกิจ 134 คู่ ซึ่งจากการประเมินผลเบื้องต้นหลังการจัดงานพบว่าจะสร้างมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มเติมจากเดิมไม่น้อยกว่า 1,380 ลบ. จาก 85 บริษัท

ปัจจัยลบ

  • ทางฝ่ายแนะนำหลีกเลียงการลงทุนในหุ้นที่มีการส่งออกไป/ฐานการผลิตในเมียนมา หลังมีรายงานข่าวว่ากองกำลังชาติพันธุ์กะเหรียงได้ยึดเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองการค้าชายแดนที่ติดกับไทย เท่ากับว่าพรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้านของรัฐบาลทหารพม่าถูกตัดขาดไปเรื่อยๆ หลังก่อนหน้านี้ได้สูญเสียพื้นที่ชายแดนรัฐฉานซึ่งติดกับจีนและพื้นที่ชายแดนรัฐยะไข่ซึ่งติดกับบังกลาเทศไปแล้ว
  • ม.หอการค้าฯคาด GDP2Q67 ของไทยโต 1.8-2.3% ย่อลงจากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.0-2.5% เนื่องจากมีการสำรวจความเห็นของภาคเอกชน พบว่ายอดขายยังนึ่ง และซึมตัว
  • เยอรมนีเผยคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.2% m-m ในเดือนก.พ.67 แต่ตำกว่าตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% m-m ซึ่งสะท้อนว่าอุปสงค์ในภาคการผลิตยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่อง

PICKS OF THE DAY

AAV BUY

  • เป้าหมาย 2.50 / 2.60 แนวรับ 2.34
  • 1Q67 นักท่องเที่ยวโตดี 44%: 1Q67 นัก ท่องเที่ยวอยู่ที่ 9.37 ล.คน +44% y-y และคิดเป็น 87% ของก่อนโควิด ซึ่งจีนเป็นอันดับ 1 ที่ 1.76 ล.คน มาเลเซีย 1.17 ล.คน รัสเซีย 0.62 ล.คน เกาหลีใต้ 0.56 ล.คน และอินเดีย 0.47 ล.คน ซึ่งภาพทั้งปีคาดนักท่องเที่ยว 34.5-35 ล.คน มีโอกาสเป็นไปได้สูง และยังมีมาตรการฟรีวีซ่าเป็นตัวสนับสนุนต่อเนื่อง
  • 1Q67 การดำเนินงานปกติฟื้นอย่างมีนัยสำคัญ: นักท่องเที่ยวที่เข้าโดยเฉพาะจีนและอินเดีย ซึ่ง AAV มีเส้นทางบินไปจีน 11 เส้นทาง และอินเดีย 10 เส้นทาง รวมถึงคนไทยที่เดินทางเพิ่มขึ้น ทำให้การดำเนินงานปกติไม่รวม Fx ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีแผนเปิดเส้นทางบินในจีนและอินเดียเพิ่ม รวมถึงบินไปญี่ปุ่น และไทย-ไต้หวัน-ญี่ปุ่นหลังจากได้ Fifth Freedom หนุนผู้โดยสารในช่วงที่เหลือ

BH BUY

  • เป้าหมาย 236.00 / 244.00 แนวรับ 224.00
  • ลูกค้าหลักกลับมา: รับอานิสงส์การกลับมาของลูกค้าตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของรายได้รวมของลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 67% หลังหมดช่วงถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และในปี 2566 ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 51.7%y-y โดยผู้บริหารยังชูลูกค้าจีน และ ซาอุฯ เป็น Key Growth ในปี 2567 เนื่องจากมีประเด็นฟรีวีซ่าไทย-จีนช่วยหนุน
  • หุ้นปลอดภัยในตลาดที่ผันผวน: Beta ต่ำกว่า 1 ทำให้มีความผันผวนต่ำในช่วงตลาดปรับตัวลง และ Valuation น่า สนใจ เพราะมี P/E เพียง 26.09 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 51.60 เท่า และต่ำกว่า P/E เฉลี่ยอุตสากรรมที่ 30.71 เท่า
- Advertisement -