Daily Focus: Domestic Play // Hold after Accumulated

2024 SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องตามคาด ปิดบวกอีก 7.06 จุด ที่ระดับ 1,408.17 จุด ทะลุผ่านแนวด้าน 1,405 จุด ได้สำเร็จ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังค่อนข้างหนาแน่น 4.4 หมื่นลบ. หนุนโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ อาหาร ค้าปลีก เป็นต้น สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 1.1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 3.7 พันลบ.(แต่พลิกมา Short Index Futures สุทธิ 1.86 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะชะลอตัวระยะสั้นหลังจากปรับตัวขึ้นแกร่ง 2 วันก่อนหน้า โดยมองแนวรับบริเวณ 1,400+- จุด ปัจจัยกดดันมาจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด โดย Headline +3.5% y-y ส่วน Core +3.8% y-y ซึ่งเริ่มมีสัญญาณเร่งขึ้นเล็กน้อยและยังคงห่างจากเป้าหมาย 2% อยู่มาก ทำให้ตลาดลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ FED เหลือ 2 ครั้งหรือต่ำกว่า ส่งผลให้ Bond Yield และ Dollar Index ปรับตัวขึ้นแรงกดดันสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตามระยะกลาง-ยาวเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ตามทิศทางเศรษฐกิจที่จะทยอยเร่งตัวใน 2024 เป็นต้นไป ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 นโยบายดิจิทัลวอลเลตที่จะเริ่มใช้จ่ายใน 4Q24 แม้กนง.จะยังคงดอกเบี้ยที่ 2.5% แต่เรามองว่าไม่ได้เป็นปัจจัยถ่วง และหากมีการลดดอกเบี้ยในอนาคตจะเป็น Sentiment บวกเพิ่มเติมสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งสำหรับ SET Index ที่ปกติเป็น Leading Indicator ต่อภาพเศรษฐกิจและกำไรบจ.ราว 3-6 เดือน ทำให้เรายังคงมองว่าดัชนีมีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงก่อนหน้าและจะทยอยฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไรปี 2024 แข็งแกร่งและเทรด PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid // ถือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่มบริเวณ 1,350+- จุด

หุ้นเด่นเดือน เม.ย.: BA, CPALL, CPN, ITC, TIDLOR

FSSIA Portfolio: AOT, BCH, CPALL, CPN, GPSC, NSL, SHR, SJWD, and TIDLOR

หุ้นเด่นวันนี้ : TACC

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท
  • ระยะสั้นคาดกำไร 1024 จะโตทั้ง q-q, y-y จากรายได้ที่ขายไป 7-Eleven ยังโตสดใสต่อเนื่อง เรายังคาดกำไรปี 2024 กลับมาโต +16% นอกจากนี้ยังได้ Sentiment บวกหลัง Digital Wallet สามารถใช้กับ 7-Eleven ได้
  • ภาพรวมกำไรผ่านจุดต่ำสุดปี 2023 และเร่งตัวในปี 2024 ตามเป้ารายได้ผู้บริหารที่คาด โต 10% y-y และแนวโน้มต้นทุนรวมค่อนข้างทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่ไม่ต้องรับรู้ขาดทุนบริษัทร่วม TCI ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไป และคาดจะมีการกลับรายการด้อยค่าในระยะถัดไป Valuation ยังถูกเทรดเพียง 13 เท่า และคาด dividend yield 7-8% ต่อปี
  • แนวรับ 4.70 บาท แนวต้าน 4.92//5.15-5.20 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคเบาบางเนื่องจากบางตลาดปิดทำการ ส่วนตลาดที่เปิดสุทธิแล้วไหลเข้า US$129 ล้าน นำโดยไทย US$101 ล้าน ตามด้วยไต้หวัน US$52 ล้าน ส่วนเวียดนามไหลออก US$24 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนวันนี้คาดว่าจะพลิกมาไหลออกหลังเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ Bond Yield และ Dollar Index พุ่งขึ้น กดดันสินทรัพย์เสี่ยง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) กนง.คงดอกเบี้ย 2.5% ตามคาด ด้วยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เสียง โดยยังมองว่าดอกเบี้ยในปัจจุบันยังสอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจและและเสถียรภาพในระยะยาว ด้านประมาณการเศรษฐกิจคาด GDP ปี 2024-25 ที่ +2.6% และ +3% ตามลำดับ เร่งตัวขึ้นจากปีก่อนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ส่วนคาดการเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดปี 2024-25 ลงเหลือ 0.6% และ 1.3% ทยอยกลับสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% โดยรวมเราคาดโอกาสลดดอกเบี้ยของกนง.ในเดือน มิ.ย. ต่ำลง และมองโอกาสลดดอกเบี้ยน่าจะเหลือแค่ 1 ครั้งมากกว่าจะเป็น 2 ครั้งในปีนี้

(+) CPALL กำไร 1Q24 ที่ 4.86 พันลบ. -13% q-q, +29% y-y หนุนจากยอดขายทั้ง 3 ธุรกิจ ที่ดีขึ้นและมี SSSG เป็นบวกราว 3.5-6% y-y ด้าน Margin ของธุรกิจ CVS ดีขึ้นจาก Product Mix ระยะสั้นโมเมนตัม 2Q24 คาดว่าจะเติบโตได้ทั้ง q-q และ y-y จากวันหยุดยาวและฤดูร้อน หนุนเครื่องดื่มขายดี Margin สูง ยังคงเป็นหุ้นที่เราชื่นชอบ คงราคาเป้าหมาย 77 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) SAPPE กำไร 1Q24 ทำ New High ที่ 327 ลบ. +95% q-q, +19% y-y หนุนจากรายได้ที่เติบโตแกร่งจากทั้งการส่งออกและยอดขายในประเทศ เราคาดรายได้ที่ 1.8 พันลบ. +19% y-y แนวโน้มกำไร 2Q24-3Q24 คาดว่าจะดียิ่งขึ้นจาก High Season การเพิ่มกำลังการผลิตประมาณการรายได้ของเรายังต่ำกว่าเป้าของบริษัท ทำให้คาดการณ์กำไรปี 2024 ที่ 1.33 พันลบ. +24% y-y อาจมี Upside คงราคาเป้าหมาย 108 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) BDMS เราคาดกำไร 1Q24 ที่ 4 พันลบ. +1% q-q, +16% y-y ทำ Record High หนุนจากรายที่เติบโตแกร่งทั้งจากผู้ป่วยไทยและต่างชาติในระดับ Double Digit ขณะที่ Margin คาดว่าจะขยับตัวขึ้นต่อ ส่วนการ Rebrand รพ.เปาโล พหลโยธินเป็นพญาไทจะช่วยหนุนการเติบโตเรายังคาดกำไรปกติปี 2024 ที่ 1.64 หมื่นลบ. +14% y-y คงราคาเป้าหมาย 35 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) PR9 เราคาดกำไร 1Q24 ที่ 143 ลบ. -24% q-q, +31% y-y หนุนจากทั้งผู้ป่วยไทยที่ยังโตแกร่ง และโดยเฉพาะผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตก้าวกระโดดจากคนจีน ขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางอาจช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ราว 3-5% ในระยะถัดไปหลังเข้าไปตั้งทีมการตลาดเพื่อติดต่อกับเอเจนซี่ในการส่งผู้ป่วยเข้ามารักษา เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2024 ขึ้นเป็น 656 ลบ. +18% y-y ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 24 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 422.16 จุด หรือ -1.09% ปิดที่ 38,461.51 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีอCPI ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจทำให้เฟด ยังไม่ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยฟื้นตัวขึ้นหลังถูกกดดันจากแรงขายท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ระดับสูงของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ (11 เม.ย.)

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ หลังรายงานดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน มี.ค. ปรับสูงขึ้นมากกว่าคาด กระทบต่อความกังวลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตามองรายงานดัชนีเงินเฟ้อของจีนในวันนี้

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.98% (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าบุตรชาย 3 คนของผู้นำกลุ่มฮามาสได้ถูกกองทัพอิสราเอล สังหารในระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา ซึ่งนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาหยุดยิ่งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส และอาจทำให้วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้างในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 86.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.07%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 14 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 2,348.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่เช้านี้ขึ้นอยู่ที่ระดับ 2,355.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.32%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 828.45/ -0.03%

- Advertisement -