บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

(-) STECON – ประชุมเมื่อครู่ค่อนไปโทนลบ

Backlog ณ สิ้น 3Q24 อยู่ที่ 8.8 หมื่นลบ. และจบปีคาดไม่ต่ำกว่า 1 แสนลบ. จากงานใหม่ใน 4Q24 มาจากงานโรงไฟฟ้า Solar 7 แห่ง และงานเอกชนใหญ่ (คาดเป็นรถไฟฟ้าส้มตะวันตกจาก CK) ขณะที่ปี 2025 ยังตั้งเป้ารับงานใหม่เพิ่มเท่ากับปีนี้ที่ 4 หมื่นลบ.จากการเข้าประมูลโครงการภาครัฐรวม 2.9 แสนลบ.

  • ปี 2025 ตั้งเป้ารายได้ก่อสร้าง 3.1 หมื่นลบ. เพิ่มจากปี 2024 ที่ 3 หมื่นลบ. และ GPM ไม่ต่ำกว่า 5% ขณะที่ธุรกิจ Recurring จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2025 อาทิ ธุรกิจน้ำประปาที่ล่าสุดเข้าไปซื้อหุ้น 51% ใน Mars Water Supply ซึ่งดำเนินการในนิคมฯ 2 แห่ง คาดรายได้ 200 ลบ./ปี ส่วนธุรกิจ Data Center จะรับรู้ในปี 2026 คาด 200-300 ลบ./ปี 
  • ค่าซ่อมงานอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอนยังเป็นแรงกดดัน GPM จนถึงแผนส่งมอบใน 2Q25 ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างทำเรื่องเคลมประกัน คาดได้ข้อสรุปปี 2025 หากได้รับเงินจะสามารถบวกกลับในฝั่งต้นทุน โดยบริษัทประเมินค่าซ่อมทั้งโครงการอยู่ที่ราว 700 ลบ. 
  • ประเด็นโครงการ CFP ที่ผู้รับเหมาหลัก UJV ค้างชำระค่าจ้างผู้รับเหมาช่วง โดย STECON บันทึกลูกหนี้จากงานดังกล่าวราว 800 ลบ.ในงบ 3Q24 ขณะที่ปัจจุบันยังดำเนินการเพื่อไม่เกิดความเสี่ยงผิดสัญญาและลดค่าใช้จ่าย แต่ชะลอการก่อสร้างลงเพื่อรอดูสถานการณ์อย่างระมัดระวัง โดยบริษัทได้ยื่นคำร้องต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อพิจารณาความสามารถของการชำระเงินของ UJV และขอคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งคาดรู้ผลภายใน 2 เดือนนี้ ขณะที่บริษัทยังมั่นใจว่าจะไม่มีการตั้งสำรองในงานดังกล่าว
  • แนวโน้ม 4Q24 เราคาดผลประกอบการหลักมีโอกาสยังขาดทุน แต่น้อยลงจาก -147 ลบ.ใน 3Q24 แรงกดดันหลักยังมาจาก GPM ต่ำจากงานบึงหนองบอนซึ่งบันทึกค่าซ่อม 70 ลบ.ใกล้เคียงกับ 3Q24 และส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าเหลือง-ชมพู
  • หุ้นขาด Catalyst และยังมีความกังวลจากประเด็นเสี่ยงของโครงการ CFP คงคำแนะนำ Reduce ตามเดิม
- Advertisement -