บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY ผู้นำด้านธุรกิจผลิตชิ้นส่วนสินค้าประเภทยาง พลาสติก และซิลิโคนขึ้นรูปตามความต้องการของลูกค้า ตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่องหลังเผยผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก 2567 (ม.ค.-ก.ย.) มีรายได้จากการขายรวม 727 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1.1% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 150.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดย POLY ใช้กลยุทธ์มุ่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าที่มีความซับซ้อนในการผลิต ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566
บริษัทฯ ยังรุกพัฒนานวัตกรรมสินค้าในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อสร้าง New S-curve รวมถึงประสบความสำเร็จในการเจาะกลุ่มลูกค้า ประกอบกับบริษัทฯ ใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มียอดขายสูงขึ้น ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวมีความซับซ้อนในการผลิต และต้องใช้มาตรฐานการผลิตและควบคุมคุณภาพในระดับสูง จึงมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในกลุ่มสินค้าทั้งหมด โดย POLY ยังสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์จาก 60.8% เป็น 63.9% ในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังปรับปรุงและวางแผนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดส่วนสูญเสีย หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนพลังงานเดิม ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง จึงสามารถลดต้นทุนขายรวมจาก 76.9% เหลือ69.9% ลดลง 7.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอีกด้วย
ทั้งนี้ POLY ยังมุ่งหน้าเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ที่บริษัทฯ เตรียมผลิตสินค้าอีกหลายโมเดล เพื่อตอบรับการย้ายฐานการผลิตจากสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เริ่มผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์การเก็บเลือดที่มีความซับซ้อนในการผลิตสูง และกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีการปรับดีไซน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเตรียมวางขายในไตรมาส 4










