SET สู้ มาตรการรัฐช่วย / 1,440-1,460
SET ปรับตัวขึ้นสู่แดนบวก: แรงหนุนจากมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ และแรงเก็งกำไรก่อนนายกฯ แถลงผลงาน รวมถึง Sentiment หนุนจากความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หากแต่ทางขึ้นมีแนวโน้มจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามเงินเฟือสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน
1.หวังมาตรการแก้หนี้: BAY, KBANK, KKP, SCB, TISCO, TTB
2.หวังของขวัญปีใหม่และนโยบายในอนาคต:
- จับจ่ายใช้สอย+ท่องเที่ยว: ADVANC, AFONTS, BJC, CBG, CPAXT, ERW, KTC, MBK, MINT, MTC, SAWAD, TACC, TRUE
- โครงการภาครัฐ: CK, KTB, STECON
- อสังหาริมทรัพย์: SC, SIRI, SPALI
3.บาทแข็ง: AAV, COM7, CRC, MOSHI
- วันนี้แถลงแก้หนี้ พรุ่งนี้แถลงผลงาน: คาดแรงหนุนมาจากการแก้ไขปัญหาหนี้ หลังแหล่งข่าวจากทำเนียบฯ เผยที่ประชุมครม.วันนี้กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SME และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางอื่นของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และการลดอัตราเงินนำส่งเงินสมทบ FIDF ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 0.23% เพื่อนำเงินนี้มาช่วยจ่ายดอกเบี้ยแทน รวมทั้งสถาบันการเงินจะใส่เงินเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งนี้นายกฯจะแถลงมาตรการข้างต้นหลังการประชุม ส่วนรายละเอียดกระทรวงการคลังและธปท.จะแถลงข่าวและเปิดตัวโครงการ “คุณสู้เราช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี ในกลุ่มหนี้บ้าน รถยนต์ และ SME ที่เป็นหนี้เสียอายุไม่เกิน 1 ปี และเป็นหนี้เสียภายใน 31 ต.ค.67 โดยมีลูกหนี้ที่เข้าข่าย 2.3 ล้านบัญชี มูลหนี้รวม 1.31 ล้านล้านบาท ขณะที่พรุ่งนี้ติดตามนายกฯแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน และการกำหนดทิศทางของไทยในปี 68 ซึ่งอาจเผยถึงของขวัญปีใหม่และนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ SET Index มีลุ้นแรงหนุนเพิ่มเติมจาก Fund flow หลังวันจันทร์ที่ผ่านมาเห็นนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทย 3.5 พันล้านบาท และโดยหลักเป็นการซื้อสุทธิในอายุ 0-1 ปี ซึ่งอาจเป็นการพักเงินก่อนเข้าสู่ตลาดตราสารทุน
- ความหวังต่อเศรษฐกิจจีนปี 68: คาด SET Index จะได้ Sentiment หนุนเพิ่มเติมจากความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลัง CPC เผยจีนจะใช้มาตรการทางการคลังในเชิงรุกมากขึ้น รวมทั้งใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปีหน้าเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่จีนส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนักก็ตาม
- ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้: อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัดเนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตาม CPI เดือนพ.ย.67 ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ทั้งนี้ ตลาดคาด Headline ขยายตัว 2.7% y-y และ 0.3% m-m เร่งตัวขึ้นจาก 2.6% y-y และ 0.2% m-m ในเดือนต.ค.67 และ Core ขยายตัว 3.3% y-y และ 0.3% m-m เท่ากับในเดือนต.ค.67
+ ปัจจัยเพิ่มเติม-
(+) กระทรวงแรงงานเผยได้ส่งหนังสือเรียนเชิญบอร์ดไตรภาคีแต่ละฝ่ายแล้วว่าจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการปรับค่าจ้าง 400 บาท ในช่วงเช้าของวันที่ 12 ธ.ค.67 เพื่อขอคำแนะนำและหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
(+) Agoda ได้จัด 5 อันดับจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวภูเขาในเอเชียเนื่องในวันภูเขาสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 11 ธ.ค.67 โดยจังหวัดเชียงใหม่ของไทย ติด 1 ใน 5 ของการจัดอันดับข้างต้น
(+) ตลท.ทบทวนดัชนี FTSE SET Index Series โดย MINT ย้ายจาก Mid Cap ไป Large Cap ส่วน CCET ได้เข้าคำนวณใน Mid Cap โดยมีผล 27 ธ.ค.67
(-) ตลท.ทบทวนดัชนี FTSE SET Index Series โดย EA ออกจาก Large Cap ไป Mid Cap ส่วน BLAND, BYD, ORI และ SPCG ออกจาก Mid Cap
(-) Tokyo Shoko Research ระบุว่าจำนวนบริษัทที่ยื่นล้มละลายในญี่ปุ่นปีนี้มีแนวโน้มทะลุ 1 หมื่นราย ซึ่งจะเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556
PICKS OF THE DAY
CK BUY
- เป้าหมาย 20.40 / 20.70 แนวรับ 19.60
- CK ตุน Backlog แน่น: CK ปัจจุบันมี Backlog 2.2 แสนลบ. เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากต้นปี คาดปี 68 รายได้ก่อสร้างยังสูงขึ้น y-y จากงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม และจะเซ็นสัญญางาน Double deck เพิ่มในช่วงต้นปีหน้า
- คมนาคมจะเริ่มทยอยนำโครงการเข้า ครม.: กระทรวงคมนาคมมีแผนเร่งนำเสนออีก 4 โครงการเข้า ครม. ภายในสิ้นปี เป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, แดงอ่อน , มอเตอร์เวย์ M5 และ M9 (ที่มา: มติชน) (โครงการที่ 8, 9, 10, 11) ส่วนปีหน้า ธปท. คาดการณ์ GDP ปี 68 เติบโต 2.9% โดยหลักมาจากการลงทุนภาครัฐฯที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีโครงการเร่งด่วนอีกหลายโครงการ คาดว่าจะเริ่มทยอยนำโครงการเข้า ครม. ต่อเนื่องในปีหน้า
KKP BUY
- เป้าหมาย 53.00 / 54.00 แนวรับ 51.00
- คาดเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากมาตรการแก้หนี้มากที่สุด: จากมาตร การแก้หนี้ที่ก.คลัง และ ธปท. จะแถลงในวันนี้ (11 ธ.ค. 67) นั้น มุ่งเน้นที่จะแก้ปัญหาหนี้บ้าน รถ และ SME ซึ่งมองว่า KKP จะเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากKKP มีสินเชื่อทั้ง 3 ประเภทนี้รวมกันคิดเป็นถึง 77% ของทั้งพอร์ต ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่ม
- ธุรกิจดีขึ้นทั้งธนาคาร และตลาดทุน: ใน 4Q67 คาดความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มสูงขึ้นจากการเป็น High season และคุณภาพสินทรัพย์น่าจะดีขึ้นจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าดีขึ้น จากเงินช่วยเหลือของรัฐบาล และการได้รับโบนัส ส่วนธุรกิจตลาดทุน มูลค่าการซื้อขายใน SET ก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 10% y-y