KS Daily View 05.03.2025 >>> สงครามการค้าเริ่มบังคับใช้ หุ้นไทยกดดัน กรอบ SET วันนี้ 1,160 – 1,200 แนะนำ BDMS, MOSHI
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง โดย Dow Jones ลดลง 1.55%, S&P 500 ลดลง 1.22% และ Nasdaq Composite ลดลง 0.35% ตลาดผันผวนสูงจากความกังวลสงครามการค้าจะกระทบเศรษฐกิจโลก โดย S&P 500 กลับไปอยู่ที่ระดับก่อนการเลือกตั้ง หลังจากสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบศตวรรษกับสินค้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งนำไปสู่การตอบโต้อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทค้าปลีกอย่าง Target และ Best Buy ได้เตือนในการรายงานผลประกอบการว่าราคาสินค้าอาจสูงขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตามตลาดลดช่วงลบได้โดยเฉพาะ Nasdaq หลังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจนเป็น Sector เดียวที่ปิดบวก ในขณะที่กลุ่มการเงินปรับตัวลงมากที่สุด
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,177.64 จุด ลดลงราว 11 จุด (-0.91%) ตามตลาดทั่วโลก จากความกังวลสงครามการค้าที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้น Tariffs แคนาดาและเม็กซิโก 25% และจีนะเพิ่มเติมอีก 10% ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง และปัจจัยภายในจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT ที่กดดัชนีลงราว 3 จุด นอกจากนี้กลุ่มใหญ่ที่เหลือส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลงเช่นกัน เราประเมินปัจจัยบวกที่ชัดเจนยังไม่มี ในขณะที่ปัจจัยลบที่มีเพิ่มเติมจากที่ตลาดรู้อยู่แล้ว คือ การโต้ตอบอย่างรวดเร็วของประเทศคู่กรณีที่โดนสหรัฐฯ ขึ้น Tariffs แต่ล่าสุดมีท่าทีที่อาจมีการเจรจาลดภาษีสำหรับสินค้าบางส่วน มองกรอบแนวรับวันนี้ที่ 1,160 – 1,200 จุด หุ้นแนะนำเป็น BDMS, MOSHI
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
สงครามการค้าโลกทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และเพิ่มภาษีสินค้าจีนเป็น 20% ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ: แคนาดาตอบโต้ทันทีด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 107 พันล้านดอลลาร์เป็นสองระยะ จีนเลือกตอบโต้อย่างระมัดระวังเพื่อเปิดช่องให้มีการเจรจา โดยขึ้นภาษี 15% กับสินค้าเกษตรสหรัฐฯ เช่น ไก่และฝ้าย และ 10% กับถั่วเหลือง เนื้อวัว และผลไม้ พร้อมทั้งระงับการนำเข้าถั่วเหลืองจากบริษัทสหรัฐฯ 3 แห่งและไม้ซุง รวมถึงขึ้นบัญชีดำบริษัทป้องกันประเทศของสหรัฐฯ 10 แห่ง และควบคุมการส่งออกไปยังอีก 15 บริษัท เช่น General Dynamics และ Skydio นอกจากนี้จีนยังเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพื่อชดเชยการส่งออกที่คาดว่าจะลดลง ส่วนเม็กซิโกจะประกาศมาตรการตอบโต้ในวันอาทิตย์ที่จัตุรัส Zocalo โดยประธานาธิบดีเชนบอมเน้นย้ำว่าไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจอย่างไรก็ตาม เมื่อเช้านี้มีรายงานจากรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick เปิดเผยว่าทรัมป์กำลังพิจารณาลดภาษีสำหรับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หลังจากที่ทั้งสองประเทศติดต่อขอเจรจา แต่ Lutnick ระบุว่าจะไม่มีการระงับภาษีทั้งหมด แต่จะเป็นการ “พบกันครึ่งทาง” สำหรับประเทศที่ปฏิบัติตามกฎการค้า
ทั่วโลกจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาคองเกรส เช้าวันพุธที่ 5 มี.ค. เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย โดยคาดว่าจะชูนโยบาย “American First” พร้อมประเด็นสำคัญเช่น การเก็บภาษีนำเข้า การยุติสงครามในยูเครน การควบคุมชายแดน การปรับลดงบประมาณและพนักงานรัฐ การยกเลิกโครงการ DEI และการปรับลดภาษีเงินได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยอาจมี “เซอร์ไพรส์” หลายอย่างในการแถลงครั้งนี้
สหรัฐฯ และยูเครนเตรียมลงนามข้อตกลงด้านแร่ธาตุในวันอังคารนี้ หลังจากการพบปะที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์จบลงด้วยความขัดแย้ง โดยทรัมป์ต้องการประกาศข้อตกลงนี้ในการแถลงต่อรัฐสภา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เจรจากับเคียฟในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาและขอให้ที่ปรึกษาของเซเลนสกีโน้มน้าวให้ประธานาธิบดียูเครนกล่าวขอโทษทรัมป์ เซเลนสกีได้โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่ายูเครนพร้อมลงนามในข้อตกลง ข้อตกลงดังกล่าวไม่มีการรับประกันด้านความมั่นคงสำหรับยูเครนอย่างชัดเจน แต่ให้สหรัฐฯ เข้าถึงรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน
ไทยเตรียมอนุญาตให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจำกัดในวันหยุดทางศาสนาพุทธเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยรองนายกรัฐมนตรีประเสริฐ จันทรรวงทอง เปิดเผยว่าจะอนุญาตให้ขายในพื้นที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย เช่น โรงแรม สถานที่จัดงานสำคัญ และเขตบริการหรือท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีผลก่อนวันวิสาขบูชา 11 พฤษภาคม โดยแผนนี้ต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ 15 วัน จากนั้นต้องได้รับการรับรองจากรัฐมนตรีสาธารณสุขและอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
BDMS : ราคาพื้นฐาน 29.40 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ BDMS จากการมี Downside ที่จำกัด แม้ในกรณีที่ได้รับผลกระทบจาก Copayment เต็มจำนวนที่ 5% ของรายได้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาในกรณีนี้อยู่ที่ 23.10 บาท นอกจากนี้ เรามองว่า BDMS มีโอกาสเติบโตได้ประมาณ 2-3 เท่าของ GDP หรือประมาณ 5-7% ในปี 2568 อีกทั้งเราชื่นชอบความแข็งแกร่งของ BDMS ที่เป็นเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและมีการกระจายความเสี่ยงในระดับสูง โดยไม่ได้พึ่งพิงโรงพยาบาลใดเป็นหลัก ปัจจุบัน BDMS ซื้อขายอยู่ที่ระดับ -1SD ประกอบกับกำไรในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ดีกว่าคาดและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล
MOSHI : ราคาพื้นฐาน 56.10 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ MOSHI จากการประชุมเมื่อวานที่ผ่านมา โดยยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงต้นไตรมาสเป็นบวก 7-8% จากการตอบรับที่ดีของสินค้ากลุ่มตัวการ์ตูนใหม่ๆ ที่พัฒนาโดยทีม R&D ของบริษัท และได้ประโยชน์จากการร่วมโครงการ Easy e-Receipt เป็นปีแรก ผู้บริหารยังคงเป้าการเติบโตของยอดขายที่ 15-20% ในขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ไม่รวมผลกระทบจากธุรกิจ exhibition จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 54.2% ซึ่งหมายถึงจะเห็นการเพิ่มขึ้นโดยรวมประมาณ 70 bps เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้บริษัทไม่มีแผนทำธุรกิจ exhibition เพิ่มเติมจากนี้ ส่วนแผนการขยายสาขาในปี 2568 ยังคงเป้าที่ 40 สาขา แบ่งเป็นสาขาในศูนย์การค้าประมาณ 30 สาขา และอีก 13 สาขาเป็นรูปแบบ Standalone สำหรับสาขาขนาดใหญ่แบบ Standalone ที่เปิดสาขาแรกไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้รับการตอบรับที่ดีและมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน (Caixin Services PMI) เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.0 จุด ต่อด้วยตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.32% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (TH Core CPI) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.83% YoY ปิดท้ายด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐ (ISM Services PMI) ) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 53.0 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.8 จุด
วันพฤหัสฯ ติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB Main Refinancing Rate) ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.42 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.55 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.43 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.0% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
