บล.กสิกรไทย: 

ส่งออกไทยเริ่มได้แข็งแกร่งในปี 2568
  • กระทรวงพาณิชย์รายงานว่ายอดส่งออกของไทยในเดือนม.ค. 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.6% YoY แตะ 2.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.4% และเติบโตสูงกว่าช่วงเดือนธ.ค. 2567 ที่ขยายตัว 8.7% YoY การส่งออกของไทยยังคงขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง และเติบโตได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ทั้งนี้หากไม่รวมการส่งออกทองคำ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และอาวุธ การส่งออกขยายตัว 11.4% YoY เทียบกับ 10.4% YoY ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศจากความเสี่ยงของมาตรการภาษีของทรัมป์ แต่การส่งออกของไทยยังคงเติบโตได้ดีจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

การส่งออกอัญมณี ทองคำและอิเล็กทรอนิกส์มีภาพขยายตัวแรง

  • การส่งออกที่เติบโตในเดือนม.ค. เห็นได้ชัดในหมวดสินค้าภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 17.0% YoY ปัจจัยหลักที่สนับสนุนมาจากอัญมณีและทองคำ (+148.9% YoY), คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน (+45.0% YoY), และผลิตภัณฑ์ยาง (+19.9% YoY) อย่างไรก็ตาม การส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนยังคงประสบปัญหาหดตัว 13.1% YoY ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) นอกจากนี้ การส่งออกข้าวลดลงแรง 32.4% YoY โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่อินเดียยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกข้าวตั้งแต่ปลายเดือนก.ย. 2567 อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรโดยรวมยังคงทรงตัวได้จากแรงหนุนของการส่งออกยาง (+45.5% YoY) และอาหาร (+4.6% YoY) ที่ยังขยายตัวได้ดี
การนำเข้ายังคงอยู่ในระดับสูงจากการนำเข้าสินค้าทุน
  • การนำเข้าเพิ่มขึ้น 7.9% YoY แตะ 2.71 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนม.ค. ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 14.9% YoY ในเดือนธ.ค. แต่ยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% YoY ทั้งนี้ปัจจัยฉุดหลักมาจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง (-1.0% YoY) ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงขยายตัวสูง (+17.8% YoY และ +9.0% YoY) โดยรวมการส่งออกไทยสุทธิแล้ว ไทยมีการขาดดุลการค้า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนม.ค. ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขาดดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเทียบกับการขาดดุลที่เล็กน้อยเพียง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนธ.ค. 2567

การส่งออกที่แข็งแกร่งจากอุปสงค์เร่งซื้อเพื่อสะสมสินค้าคงคลังดูไม่ยั่งยืน

  • การส่งออกของไทยยังคงเติบโตแข็งแกร่ง แม้จะมีความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของทรัมป์ อย่างไรก็ดี นอกจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์แล้ว เราเชื่อว่าการส่งออกที่เติบโตได้ดีในเดือนม.ค. อาจได้รับแรงหนุนจากการขายทองคำหลังราคาปรับเพิ่มขึ้นสูง รวมถึงอุปสงค์เร่งซื้อเพื่อกักตุนสินค้าคงคลังเพิ่ม ก่อนที่มาตรการภาษีของทรัมป์จะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น เรามองการส่งออกของไทยที่ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนม.ค.อาจไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแนวโน้มการค้าทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ BEV และอุปทานข้าวที่เพิ่มขึ้นจากอินเดีย ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการส่งออกของไทยทั้งปี 2568 จะเติบโต 2.5% ขณะที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์การเติบโตของการส่งออกในช่วง 2-3%

- Advertisement -