KS Daily View 10.03.2025 >>> แนวโน้ม SET ยังลงต่อเนื่อง ติดตามสงครามการค้า/ ประชุมครม. มองกรอบ SET วันนี้ 1,170 – 1,215 จุด แนะนำ PR9, AURA
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้ : คาดตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,170 – 1,215 จุด มองแนวโน้มหลักของดัชนียังอยู่ในภาพของการปรับตัวลง แต่ระยะสั้นเริ่มมีการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานที่ระดับราว 1,170-1,180 จุด ซึ่งเรามองเป็นแนวรับสำคัญสำหรับสัปดาห์ ประเมินปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้อยู่ในช่วงวันพุธที่ 12 มี.ค. ซึ่งจะครบกำหนดตามแผนที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เคยขู่ว่าจะมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% ซึ่งหากมีการปรับเพิ่มขึ้นตามกำหนด มองจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อบรรยากาศการลงทุน เนื่องจากตลาดอาจกลับมากังวลเรื่องประเด็นสงครามการค้า หลังปลายสัปดาห์ก่อนบรรยากาศดูคลี่คลายตามการเลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก เม็กซิโกและแคนาดา 25% ออกไปเป็นต้นเดือน เม.ษ. ต่อเนื่องด้วยการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สำหรับเดือน ก.พ. โดยตลาดคาดตัวเลขจะชะลอตัวลงจาก 3.0% เป็น 2.9% หากเห็นภาพของการทรงหรือชะลอตัวของเงินเฟ้อสหรัฐฯ ได้จริงอาจส่งผลให้ Fed ลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้ชัดขึ้นในปีนี้และช่วยบรรเทาภาพความกังวลเรื่องสงครามการค้าได้บ้าง
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : ติดตามการประชุมครม. สัปดาห์นี้คาดมีการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ฉบับใหม่หลังเปิดรับความคิดเห็นและผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฏีการวมถึงติดตามการพิจารณาโครงการแปลงกองทุนLTF เป็นกองทุน TESGXเพื่อชะลอแรงขายจากการไถ่ถอนเงินลงทุน และโครงการที่จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้าสู่ตลาดอย่าง TISA จะสามารถนำยอดเงินไปหักลดหย่อนภาษีได้ แนะนำ AURA,PR9 CENTEL,IVL,SCC
ข่าวและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน
1.นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะรอคอยความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่เฟดจะดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงต่อการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่เกิดขึ้น เฟดจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ โดยเฟดจะเฝ้ารอสำหรับความชัดเจนมากขึ้น โดยไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายไว้ล่วงหน้า
2.จีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากแคนาดาในวันที่ 8 มี.ค. เพื่อตอบโต้ที่แคนาดากำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน รวมถึงผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียมในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.นี้ จีนจะเก็บภาษี 100% จากน้ำมันเรปซีด (rapeseed oil), เค้กน้ำมัน (oil cakes) และถั่วที่นำเข้าจากแคนาดา และเก็บภาษี 25% จากผลิตภัณฑ์ทางทะเลและเนื้อหมูจากแคนาดา
3.แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้พัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายในบริษัทที่พวกเขาเชื่อว่าสามารถแข่งขันกับบรรดาผู้นำในอุตสาหกรรม รวมถึงพันธมิตรอย่างโอเพนเอไอ (OpenAI) ตระกูลของโมเดลที่ไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาล่าสุดได้แสดงผลทดสอบที่บ่งชี้ให้เห็นว่า โมเดลเหล่านี้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่ทันสมัยที่สุดได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโอเพนเอไอ และแอนทรอปิก (Anthropic)
4. อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุล จึงได้บริหารเงินคงคลังให้คงเหลือ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 จำนวน 245,494 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายเงินของส่วนราชการในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์2568 มีการเบิกจ่ายเงินที่กันเหลื่อมปีมาจากปีงบประมาณ 67 ไปแล้วประมาณ 53% และมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 68 ไปแล้วกว่า 45%
5.บลูมเบิร์กว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้แสดงความพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงชั่วคราวกับยูเครนระหว่างการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบีย ในระหว่างการเจรจาที่ซาอุดีอาระเบีย แผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ สำหรับการหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ถูกเสนอต่อฝ่ายรัสเซีย ซึ่งรัสเซียได้แสดงความชัดเจนว่า หากมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ การหยุดยิงก็อาจจะสามารถยอมรับได้ เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีระหว่างทั้งสองประเทศ
Daily pick
PR9: ราคาพื้นฐานที่ 26.60 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ PR9 จากการเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 ที่ระดับสองหลัก และคาดหวังการเพิ่มขึ้นของคนไข้ต่างชาติมาอยู่เหนือระดับ 20% ต่อรายได้รวมในปี 2025 นี้ จากแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องของคนไข้ต่างชาติมายัง ครึ่งแรกของปี 2025 โดยเฉพาะจากคนไข้ตะวันออกกลาง นอกจากนี้ผุ้บริหารมองเรื่องของผลกระทบของ Copayment ค่อนข้างจำกัดและมีโอกาสเป็นบวกต่อ PR9 จากการที่คนไข้มีโอกาสย้ายจากโรงพยาบาลที่มีค่ารักษาแพงมา นอกจากนี้ ใน 2 เดือนแรกของปี 2025 ผู้บริหารมองเห็นการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
AURA: ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ AURA จากการตั้งเป้า 2025 ที่จะเพิ่มสาขาเป็น 644 แห่งเติบโต 32% และมากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 560 สาขา พร้อมดันพอร์ตสินเชื่อทองคำสู่ 6.5 พันล้านบาท ตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 2025 โต 20%-30% มากกว่าที่เราคาดไว้ราว 8% เตรียมขึ้นค่ากำเหน็จทองสูงสุด 300 บาท/บาททองในช่วงปลาย 1Q25-ต้น 2Q25 อย่างค่อยเป็นค่อยไป และ มีแผนขยายเพดานหนี้จาก 2เท่าเป็น 2.5 เท่าและมีแผนออกหุ้นกู้ 2 พันล้านบาท ช่วยเสริมสภาพคล่องการขยายสาขาการเติบโตของทองมาเงินไป พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมเปิดเผยแผน 3 ปีต่อนักลงทุนภายในเดือนนี้อีกด้วยคาดเป็นบวกในเชิง sentiment
รานงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันจันทร์ ติดตาม รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในยูโรโซน (Investor Confiden Index)จาก Sentix เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -10จุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -12.7 จุด
- วันอังคาร ติดตาม รายงานการคาดการณ์การเติบโของ GDP ของญี่ปุ่นใน 4Q24 ครั้งสุดท้าย ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย ติดตามตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ในสหรัฐ (US JOLTS Job openings) เดือน ม.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 7.6 ล้านตำแหน่ง
- วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ (US CPI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.9% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +3.0%% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ 3.2% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.3% YoY
- วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐเดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.2% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM ต่อด้วย ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.21 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนครั้งแรก (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 65.0 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 64.7 จุด