KS Daily View 7 พ.ค. 2025>>> ช้านี้คาดตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น รับข่าวตัวแทนการค้าสหรัฐ-จีน เตรียมพบปะหารือการค้าที่สวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามผลการประชุมเฟดเบื้องต้นคาดยังคงโทน Hawkish
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.77%, Nasdaq Composite ลดลง 0.87% และ Dow Jones ลดลง 0.95% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พบกับนายกรัฐมนตรีของแคนาดา ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าว่า “เราไม่จำเป็นต้องลงนามข้อตกลงใดๆ” แม้ว่าเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้สัมภาษณ์ว่าสหรัฐใกล้จะทำข้อตกลงบางส่วนได้แล้ว ประกอบกับนักลงทุนยังรอผลการตัดสินใจดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,187.86 จุด ลดลงราว 11 จุด (-0.93%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มพลังงานหลังที่ OPEC+ได้มีการประกาศเพิ่มกำลังการผลิต, กลุ่มค้าปลีกหลังจากที่รายงาน SSSG ในเดือนเม.ย. ที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านโดยเฉพาะสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้ากึ่งคงทนจากกำลังซื้อที่ยังเปราะบางจากภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอ, และกลุ่มขนส่งที่ถูกกดันด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวใน 1Q25ที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน เราคาดการณ์ว่า SET index ของไทยในวันนี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น รับข่าวตัวแทนการค้าสหรัฐ-จีน เตรียมพบปะหารือการค้า ในกรอบ 1,175-1,200 จุด ในขณะเดียวกันมองว่าตลาดจะให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มของกำไรใน 1Q25 เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระหว่างช่วงของการรายงานผลประกอบการ อย่าง GULF และ BGRIM ที่มีแนวโน้มผลประกอบการ 1Q25 เติบโตทั้ง YoY, QoQ
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- จากการคำนวณอ้างอิงข้อมูลราคาปิด ณ วันที่ 2 พ.ค. 2025 คาดการณ์ว่าหุ้นที่มีแนวโน้มจะปรับเข้าการคำนวณดัชนี SET50 ได้แก่ TCAP, BCP, KKP และปรับออกจากการคำนวณดัชนีอย่าง BANPU GLOBAL BGRIM หรือ ITC ในส่วนของ SET100 คาดว่า MBK, AURA, TOA, WHAUP, TFG มีแนวโน้มที่จะถูกปรับเข้าการคำนวณดัชนี SET100 ขณะที่ COCOCO, SAPPE, SNNP, ROJNA, CKP อาจถูกนำออกการคำนวณ ซึ่งจะมีการประกาศหุ้นเข้าออกในช่วงกลางเดือน มิ.ย.และ มีผลใช้ 1 ก.ค.- ธ.ค. 2025
- หลังประชุม กพช. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน เปิดเผยแนวทาง กำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ โดยให้ราคาก๊าซฯ ในประเทศ (Sales Gas) ที่ออกจากโรงแยกก๊าซฯ ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยก๊าซฯ อ่าวไทย (Gulf Gas) โดยนำมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ C2+ มาลดราคาในสัดส่วนที่เหมาะสม พร้อมกำหนดต้นทุนก๊าซฯ ให้เหมาะกับแต่ละภาคการใช้ เช่น ก๊าซฯ ที่ใช้ในโรงแยกและผลิต LPG ใช้ต้นทุนจาก Gulf Gas ส่วนก๊าซฯ ที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ต้องไม่กระทบธุรกิจปิโตรเคมีและช่วยลดค่าไฟ แนวทางนี้ ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้น PTTGC และ IRPC
- สหภาพยุโรปมีแผนที่จะเสนอการยกเลิกนำเข้าก๊าซจากรัสเซียและสัญญาซื้อขายก๊าซล่วงหน้ากับรัสเซียภายในปี 2025 ซึ่งปัจจุบันก๊าซธรรมชาติในยุโรปมาจากรัสเซียคิดเป็นประมาณ 19% ที่อาจส่งผลให้ราคาก๊าซในโซนเอเชียปรับตัวลดลงจาก supply ของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นในตลาดหนุนให้ราคา JKM LNG และ pool gas ปรับตัวลดลงเป็นบวกกับโรงไฟฟ้า SPP อย่าง BGRIM และ GPSC
- เงินเฟ้อพื้นฐาน เม.ย. -0.22% YoY ต่ำกว่าคาด ครั้งล่าสุดที่เงินเฟ้อไทยติดลบคือช่วง 4Q23-1Q24 ขณะนั้น SET -10% อย่างไรก็ตามพบว่าหุ้นกลุ่มที่ Outpeformed นำโดยกลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาล (BDMS,BCH,PR9) โรงกลั่น (TOP, BCP) และส่งออก (STA, STGT, CCET,ITC,TU,AAI) คาด 2Q25 เงินเฟ้อยังถูกกดดันจากฐานสูง ค่าไฟลด ราคาน้ำมันอ่อนแอ ก่อนฟื้นตัว 2H25 คงกรอบเงินเฟ้อปีนี้ 0.5% มองยังไม่เข้าภาวะเงินฝืด (Core CPI +0.98% ติดลบไม่ Broad base) คาดหุ้น Defensive ยังเด่น (ADVANC, GPSC, PR9)
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อต เบสเซนท์ และ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เจมีสัน เกรียร์ เตรียมพบกับ เจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงของจีน ภายในสัปดาห์นี้ที่สวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็น ก้าวแรกในการเจรจาเกี่ยวกับนโยบายภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- GULF: ราคาพื้นฐาน 61.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GULF จากแนวโน้มผลประกอบการใน 1Q25 คาดว่าจะเติบโตขึ้นทั้ง YoY, QoQ หนุนด้วยการ COD ของไฟฟ้า GPD units 3-4 และ HKP unit 2 รวม 2,070 Mega Watt ในปีที่ผ่านมา รวมไปส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก ADVANC ที่รายงานกำไร 1Q25 ที่ออกมาดีกว่า คาดการณ์ไว้ไป 8.8% ทั้งนี้หลังควบรวมกิจการกับ INTUCH จะหนุนให้ leverage ratios สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ GULF ลดลงจาก 2.2 เท่า มาอยู่ที่ต่ำกว่า 1.0 เท่าทำให้สามารถใช้กู้ได้เพิ่มขึ้นเพื่อระดมทุนสำหรับโครงการใหม่ อีกทั้ง TRIS ได้เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ จาก “A+” เป็น “AA-” ที่จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเงินกู้และหุ้นกู้ใหม่ในอนาคตจะลดลง
- BGRIM: ราคาพื้นฐาน 13.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BGRIM ที่คาดว่าแนวโน้มกำไรจากผลประกอบการหลักจะเติบโตขึ้น 44% YoY และ 109% QoQ ส่วนแบ่งผลขาดทุนที่พลิกกลับมามีกำไรจาก 1Q24 และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง โดยเฉพาะจากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลงและการไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ (ภาษีและค่าที่ปรึกษา) ในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้แนวโน้มกำไรใน 2Q25 ยังคงแข็งแกร่งจาก ราคาก๊าซนำเข้า QTD ปรับตัวลดลง 20% QoQ ที่จะหนุนให้ GPM ปรับตัวเพิ่มขึ้น
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตามด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของฝั่งยุโรป ดัชนียอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +1.60% YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.30% YoY ปิดท้ายด้วยการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ เรื่องดอกเบี้ยนโยบาย ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า
- วันพฤหัสฯ ติดตามการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรจะลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps จากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.30 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.41 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออกของจีนเดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.0% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +12.4% YoY และตัวเลขนำเข้าของจีน เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -5.9% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ -4.3% YoY