บล.ทรีนีตี้:

บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ – BAM

กำไร 1Q68 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย หลังยอดจัดเก็บชะลอตัว

  • กำไร 1Q68 อยู่ที่ 217 ล้านบาท ลด 59% QoQ และ 49% YoY ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย
  • ยอดจัดเก็บลดลงทั้งในส่วนของ NPL และ NPA โดยหลักเป็นผลจากการที่สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
  • สำรองหนี้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยเป็นผลจากยอดจัดเก็บที่ลดลง
  • ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลงราว 26% จากประมาณการก่อนหน้า โดยคาดกำไรปี 2568 ใหม่อยู่ที่ 1,291 ล้านบาทลดลง 19% YoY เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรที่อาจไม่ฟื้นตัวอย่างที่เคยคาดหวังไว้
  • ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 5.5 บาท แนะนำเพียง “ถือ” มอง ROE ระยะสั้นต่ำผิดปกติทำให้ Valuation ไม่น่าสนใจ โดย Valuation จะกลับมาน่าสนใจอาจต้องรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่ายังไม่ใช่ระยะอันสั้นนี้

กำไร 1Q68 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย หลังยอดจัดเก็บชะลอตัว

BAM ประกาศกำไร 1Q68 ที่ 217 ล้านบาท ลดลง 59% QoQ และ 49% YoY ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 9% โดย ยอดจัดเก็บรวมลดลงราว 25% QoQ และ 10% YoY โดยในส่วนของยอดจัดเก็บจาก NPL ชะลอตัวลง 16% QoQ และ 10% YoY เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ลูกค้าบางส่วนขอเลื่อนการผ่อนชำระไป 2Q68 บวกกับการขายทอดตลาดหลักประกัน NPL ชะลอตัวลงจากการที่สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ขณะที่ กระแสเงินสดจาก NPA อ่อนตัวลง 36% QoQ และ 9% YoY โดยเป็นผลจากสถาบันการเงินเช่นกัน ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 20% QoQ และ 7% YoY โดยหลักเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท แต่ ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ (ECL) กลับเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ 15% YoY จากกระแสเงินสดรับที่ลดลง ทำให้ดอกเบี้ยค้างรับสูงขึ้น ซึ่งบริษัทต้องตั้งสำรองหนี้เพื่อชดเชยดอกเบี้ยค้างรับดังกล่าว

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568

จากแนวโน้มยอดจัดเก็บใน 1Q68 ที่ชะลอตัว ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีอาจจะไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างที่เคยคาดไว้ก่อนหน้า โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากภาวะเศรษฐกิจ และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลงราว 26% จากประมาณการก่อนหน้า เหลือ 1,291 ล้านบาท ลดลงต่อเนื่องอีก 19% YoY ทั้งนี้ กำไรงวด 1Q68 คิดเป็นราว 17% ของประมาณการกำไรทั้งปี

คงแนะนำเพียง “ถือ”

จากการปรับลดประมาณการ เราจึงปรับราคาเป้าหมายปี 2568 ใหม่เหลือเพียง 5.5 บาท อิง PBV 0.4 เท่า แนะนำเพียง “ถือ”เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาด ทำให้ ROE ที่คาดการณ์ค่อนข้างต่ำผิดปกติที่ราว 3% เท่านั้น

ทั้งนี้ หากปัจจัยกดดันต่าง ๆ เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะภาพเศรษฐกิจ อาจทำให้ ROE ฟื้นตัว และ Valuation กลับมาน่าสนใจได้ เพียงแต่ยังไม่ใช่ในระยะอันสั้นนี้

 

- Advertisement -