จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 1/2568 รายได้และแบ็คล็อกเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2568 ยังคงเติบโต โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปีก่อน และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 6,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาส 1 ปี 2567
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า แม้ว่ามีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากภายในและภายนอกประเทศ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ รวมทั้งแบ็คล็อกหรือยอดขายรอรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และไตรมาสนี้บริษัทฯ เริ่มดำเนินการตามแผนงานกลยุทธ์ โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน จากการปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความคล่องตัวในการดำเนินงาน และเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทฯ ในอนาคต
นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตในไตรมาส 1/2568 โดยรายได้จากการขายและบริการ 1,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 234
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากปีก่อน ขณะที่ไตรมาสนี้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
จำนวน 33 ล้านบาท จากการปรับโครงสร้างการบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรจากการดำเนินงาน 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 177
จากปีก่อน รวมทั้งหากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายข้างต้น 33 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในระดับ 6,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาสแรกปีก่อน รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการสร้างรายได้เติบโต 5-15% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปี 2567 โดยรักษาอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 19-20% ใกล้เคียงปีก่อน พร้อมเป้าหมายรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) ระดับ 40-50% และเป้าหมาย Backlog ที่ระดับสูงกว่า 5,500-6,500 ล้านบาท
จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และมีวินัยทางการเงิน ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน และมีเงินสดมากกว่า 800 ล้านบาท รองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ในการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ
ทั้งนี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ0.2703 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 80% ของกำไรสุทธิรวม