SMD100 ปรับโครงสร้างใหญ่ เดินหน้าสู่ “แพลตฟอร์มสุขภาพระดับประเทศ” พร้อมแยกบริษัทในเครือเข้าตลาดกลางปีหน้า
บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 เดินหน้าปรับโครงสร้างการบริหารครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเชิงยุทธศาสตร์ของกลุ่มธุรกิจในเครือ เข้าสู่ระบบการดำเนินงานในลักษณะแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ (Platform-Based Growth) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเป็น “แพลตฟอร์มสุขภาพระดับประเทศ” (National HealthTech Platform) ที่มีบทบาทเชิงระบบต่อเศรษฐกิจ สุขภาพ และนวัตกรรมของประเทศไทยในศตวรรษที่ 21
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 โดยแต่งตั้ง ทีมผู้บริหารระดับสูง (Executive Leadership Team) ครอบคลุมสายงานธุรกิจหลักทั้งภายในบริษัทแม่และบริษัทย่อย เพื่อเสริมความชัดเจนทางกลยุทธ์และรองรับการเติบโตแบบแพลตฟอร์ม (Platform-Based Growth)
1. การปรับโครงสร้างการบริหาร: สร้างความชัดเจนเพื่อรองรับการเติบโตแบบองค์รวม
นำโดย ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ซึ่งยังรับบทเป็นหัวหน้าสถาปนิกนโยบายสุขภาพแห่งอนาคต พร้อมทีมผู้บริหารร่วมก่อตั้งอีก 5 คน ดูแลบริษัทย่อยแต่ละแห่งในกลุ่ม SMD100
รายชื่อผู้บริหารระดับสูง (Executive Leadership Team)
- ดร. วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ Co-Founder ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน), ประธานกรรมการบริหารทุกบริษัทในเครือ, หัวหน้าสถาปนิกนโยบายสุขภาพแห่งอนาคตของกลุ่มบริษัท
- ดร. รมณ วสุศุทธิกุลกานต์ Co-Founder รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจเลขานุการบริษัท บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน), ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี สัปปายะ จำกัด
- นางสาวโสรัจจา บุญประสิทธิ์ Co-Founder รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจบริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน), ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดีไอ จำกัด
- นายทวีศักดิ์ บุญประสิทธิ์ Co-Founder รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี เจเนซิส จำกัด
- นายกฤตธรรม ง่วนสำอางค์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี คอนเน็กซ์ จำกัด
- นางสาวประภัสสร ปฐมาภินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน)
2.ผลประกอบการไตรมาส 1/2568: ขาดทุนเชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนการลงทุนเพื่ออนาคต
ในไตรมาส 1 ของปี 2568 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 26.47 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายบริหารชี้แจงว่าเป็น “การขาดทุนเชิงกลยุทธ์” (Strategic Loss) อันเป็นผลจากการลงทุนเชิงรุกเพื่อวางโครงสร้างระบบบริการใหม่ ปรับสายผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มสุขภาพอนาคต และสร้างระบบดิจิทัลรองรับการเติบโตของแพลตฟอร์ม
พร้อมกันนี้ บริษัทมี Backlog ที่รอส่งมอบมูลค่ารวมประมาณ 423 ล้านบาท โดยกระจายอยู่ในกลุ่มธุรกิจสำคัญ ดังนี้:
• 34% กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการนอน (Sleep Products Portfolio)
• 23% กลุ่มผลิตภัณฑ์รังสีวินิจฉัย (Radiology Products Portfolio)
• 22% กลุ่มผลิตภัณฑ์เวชบำบัดวิกฤต (Critical Care Products Portfolio)
ตัวเลข Backlog ดังกล่าวสะท้อนถึงการวางรากฐานที่มั่นคง และแนวโน้มการเติบโตที่มีศักยภาพสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ของบริษัท
3.ความสำเร็จในธุรกิจ SLEEPVERSE และ WELLNESS 10S
- บริษัทได้เปิดให้บริการ ศูนย์ตรวจการนอนหลับ 3 แห่ง รวม 23 ห้องตรวจ ได้แก่
1. ศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ (11 ห้อง)
2. ศูนย์ เอ็สเอ็มดีเอ็กซ์ – คินออริจิ้น (8 ห้อง)
3. ศูนย์ศิริราชกาญจนาภิเษก (4 ห้อง)
ทั้งหมดอยู่ภายใต้ระบบ SMD rise SLEEPVERSE และได้รับการรับรองมาตรฐาน AACI (American Academy of Clinical Inspection) เป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
- ธุรกิจ Wellness 10S Innovation ซึ่งเน้นองค์ประกอบเชิงสุขภาพองค์รวม อาทิ สมาธิ วิทยาศาสตร์การนอนหลับ การเคลื่อนไหวเชิงร่างกาย-สมอง และเทคโนโลยีเพื่อการฟื้นฟู ได้รับการตอบรับในเชิงพาณิชย์และวิชาการอย่างกว้างขวาง
4. การฟื้นตัวของกลุ่ม Critical Care และการขยายธุรกิจด้าน Oncology
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ Critical Care เริ่มเข้าสู่ภาวะ Turnaround หลังจากผ่านช่วงชะลอตัวในสถานการณ์โควิด โดยมีคำสั่งซื้อจากพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- บริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาศูนย์รักษามะเร็งด้วยระบบ Proton Therapy แห่งที่ 2 ของประเทศไทย โดยร่วมมือกับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ภายใต้รูปแบบ Public–Private Partnership (PPP) ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายใน สิ้นปี 2570
5. การเตรียม Spin-Off บริษัท เอสเอ็มดี สัปปายะ จำกัด
SMD100 อยู่ระหว่างการเตรียมการแยกบริษัทในเครือ บริษัท เอสเอ็มดี สัปปายะ จำกัด เพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายใน กลางปี 2569 โดยมีเป้าหมายในการขยายธุรกิจ Wellness & Lifestyle Services ในระดับประเทศและระดับภูมิภาคอาเซียน–จีน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศสุขภาพเชิงบูรณาการ
6. มุมมองผู้บริหาร: การลงทุนเชิงกลยุทธ์คือการวางรากฐานระยะยาว
ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “แม้ในช่วงต้นปีบริษัทจะมีผลขาดทุนในเชิงบัญชี แต่ในมุมของผู้บริหาร นี่คือการวางรากฐานที่สำคัญเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต เราเชื่อมั่นว่าแนวทางการพัฒนาสู่แพลตฟอร์มสุขภาพระดับประเทศในครั้งนี้ จะส่งผลต่อเนื่องเชิงระบบต่อเศรษฐกิจและสุขภาวะของประเทศไทยในศตวรรษที่ 21”
การปรับโครงสร้างในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการจัดวางผู้บริหารให้เหมาะสมกับบทบาททางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SMD100 ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่บทบาท “ศูนย์กลางแพลตฟอร์มสุขภาพแห่งเอเชีย” ด้วยแนวคิด “ไม่มียุคใหม่ หากไร้กระบวนทัศน์ใหม่” (No New Era Without New Paradigm)