CHAYO โชว์ฟอร์มแกร่ง!! Q1 กำไรทะลุ 80.16 ลบ. โตกว่า 2,411% มั่นใจรายได้ปี 2568 โตต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 20% พร้อมหาจังหวะเติมพอร์ตหนี้เพิ่ม
“บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO” ประกาศงบโค้งแรกปี 2568 โชว์ฟอร์มแกร่ง!!! กำไรในส่วนของที่เป็นของบริษัทใหญ่โตแตะ 80.16 ล้านบาท หรือโต 2,411% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โกยรายได้รวม 548.55 ล้านบาท โต 11.23% ผลจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาคนเพิ่ม ด้าน “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” แม่ทัพใหญ่ ประกาศลุยซื้อหนี้เพิ่ม หลังไตรมาสแรกซื้อหนี้เข้ามากว่า 970 ล้านบาท ปักธงปีนี้ตั้งเป้าซื้อเพิ่มราว 10,000 ล้านบาท มั่นใจผลการดำเนินงานในปี 2568 โตต่อเนื่องจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20%
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวดไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทแม่อยู่ที่ 80.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 76.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2,411% สาเหตุการเพิ่มขึ้นของกำไรส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้หลักของกิจการและการลดลงของ ECL โดยบริษัทมีรายได้รวม 548.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 55.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.23% เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาคน
“ในช่วงไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทมียอดจัดเก็บจากหนี้ด้อยคุณภาพจำนวนประมาณ 199.56 ล้านบาท ซึ่งมากกว่างวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 37.37 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.04 โดยที่ยอดจัดเก็บหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่บริษัทมีการซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น” นายสุขสันต์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทบริหารหนี้รวมอยู่ที่ระดับมากกว่า 100,000 ล้านบาท และยังคงประมูลหนี้เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้อาจเน้นหนักไปที่หนี้ไม่มีหลักประกันเป็นหลัก ประกอบกับบริษัทอยู่ระหว่างการหาโอกาสในการร่วมมือกับภาครัฐ ในการบริหารหนี้ภาคประชาชน ที่รัฐบาลตั้งใจซื้อออกมา
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของผลการดำเนินงานในปี 2568 ที่โตต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 2,093.39 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 241.15 ล้านบาท
สำหรับการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ยังคงมีการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ที่ดินแปลงใหญ่ (ติดทะเลบนเกาะยาวใหญ่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพสูง) ที่จังหวัดพังงา บริษัทเพิ่งประมูลได้ในเดือนเมษายน โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงต้นไตรมาส 3 ของปีนี้