บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

KCE Electronics (KCE.BK/KCE TB) น่าจะผ่านจุดต่ำสุด*

Events: ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับประมาณการ, และปรับลดราคาเป้าหมาย

Impact: ตั้งเป้ารักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้ทรงตัวในปี 2568

บริษัทยังไม่เห็นสัญญาณการร่นคำสั่งซื้อ (pull-in orders) หรือการเลื่อนคำสั่งซื้อ (push-out orders) เพราะความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยผู้บริหารคาดว่ายอดขายจากนี้ไปจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป QoQ (ประมาณ 3-4% QoQ) ใน 2Q68 โดยคาดว่าสัดส่วนยอดขายสินค้าใหม่จะเพิ่มขึ้นจาก 5-7% ใน 1Q68 KCE ยังคงตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 422 ล้านดอลลาร์ฯ (ทรงตัว YoY) ในขณะที่เราใช้สมมติฐานยอดขายปี 2568 ที่ 399 ล้านดอลลาร์ฯ (-5% YoY) ต่ำกว่าเป้าของบริษัทประมาณ 5% ทั้งนี้ KCE เลื่อนแผนขยายโรงงานที่โรจนะออกไปเพื่อความอนุรักษ์นิยม จากเดิมที่มีแผนจะเปิดดำเนินการใน 2H69 โดยประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือข้อสรุปของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ปรับลดเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 21-22%

อัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอใน 1Q68 ที่ 17.4% เป็นเพราะ i) ราคาที่ขายให้ลูกค้าลดลงประมาณ 4% และ ii) ความไม่สอดคล้องกันระหว่างราคาขาย (จากการลดต้นทุน) และต้นทุนวัตถุดิบ (การเจรจาต่อรองต้นทุนกับ supplier) ทั้งนี้ เนื่องจาก i) ช่วงเหลื่อมเวลา (lag time) ระหว่างการปรับราคาขายเฉลี่ย และต้นทุนกลับมาเป็นปกติ ii) ยอดขายอาจจะเพิ่มขึ้นจากสินค้าใหม่ในไตรมาสต่อ ๆ ไป และ iii) มีการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q68 จะเป็นระดับที่ต่ำที่สุด และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสต่อ ๆ ไป โดยตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2568 ไว้ที่ 21-22% (ปรับลดลงจากเดิมที่ 24-25%)

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลง 8-9%

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นได้ในไตรมาสต่อ ๆ ไป แต่การจะบรรลุเป้าหมายของบริษัทยังมีความท้าทายอยู่บ้าง เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลง 8-9% เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอใน 1Q68 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการปรับลดประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลง 80bps ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ KCE จะลดลง ~26% YoY ในปี 2568 แต่เราคาดว่าผลประกอบการอาจจะดีขึ้น QoQ ในปีนี้

Valuation & action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568F เป็น 16.50 บาท อิงจาก PER ที่ 17.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.5 S.D) จาก 18.00 บาท ถึงแม้เราจะคาดว่าผลประกอบการของ KCE จะยังแผ่ว โดยคาดว่ากำไรจะลดลง 26% YoY ในปีนี้ แต่เราคิดว่ากำไรในไตรมาสแรกน่าจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดแล้ว ในขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหลังจากที่มีการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” KCE และแนะนำให้นักลงทุนจับตาผลการดำเนินงานใน 2Q68 ในเชิงของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น เพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีการค้า รวมถึงผลกระทบจากต้นทุนที่ไม่สอดคล้องซึ่งกลับมาเป็นปกติ และการคุมต้นทุน

Risks

ภัยธรรมชาติ, การปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น

- Advertisement -