บล.พาย:
STECON: STECON Group PCL
ตั้งเป้างานใหม่ 50,000 ล้านบาท
เราแนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการที่ออกมาดี นอกจากนี้คาดว่าจะเห็นการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นเพิ่ม อย่างเช่นธุรกิจน้ำที่เริ่มสร้างรายได้แล้ว ธุรกิจ Data Center หรือรวมถึงบริษัท Start Up 2 ราย เป็นต้น สำหรับรายได้ทั้งปีที่ 30,904 ล้านบาท จากฐาน Backlog ที่มีอยกว่า 98,000 ล้านบาท ทำให้เรามองว่ายังมีความเป็นไปได้อยู่ แต่กำไรสุทธิที่คาดไว้ที่ 555 ล้านบาท น่าจะเป็นระดับที่ต่ำไป หลังจาก 1Q25 มีกำไรสุทธิ 342 ล้านบาท โดยเราจะรอปรับหลังผลประกอบการ 2Q25 หรือมีความชัดเจนเกี่ยวถึงการยกเลิกการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูที่เข้ามาไตรมาสละกว่า 100 ล้านบาท
1Q25 มีกำไรสุทธิ 342 ล้านบาท
- STECON มีกำไรสุทธิที่ระดับ 342 ล้านบาท ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 279 ล้านบาท ได้รับผลดีจากการไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบึงหนองบอนเข้ามา ทำให้กำไรขั้นต้นสูงถึง 7.6%
- รายได้ที่ 6,526 ล้านบาท (+1%YoY,-15%QoQ) รายได้ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ เนื่องจากงานโรงไฟฟ้าโซล่าร์เซลล์เข้ามาน้อยกว่าคาด ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าอินอย์ในช่วงท้ายโครงการ
- กำไรขั้นต้นที่ 7.6% เพิ่มขึ้นจาก 5.9% ใน 1Q24 และพลิกจากที่ขาดทุนขั้นต้นกว่า 13% ใน 4Q24 เพราะไม่มีมีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมบึงหนองบอนเข้ามาแล้ว โดยกำไรขั้นต้นจากงานก่อสร้างเพิ่มเป็น 7.3% จาก 5.7% ใน 1Q24 ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ 206 ล้านบาท (+4%YoY, +20%QoQ) เริ่มมีค่าใช้จ่ายจากงานรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกเข้ามาเพิ่ม
- ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ 136 ล้านบาท (-7%YoY,+5%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดลงเพราะผู้โดยสารรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทาง (เหลืองและชมพู) เพิ่มขึ้น 18%YoY
- ไตรมาสนี้ STECON มีเงินปันผลจาก GULF เข้ามา 222 ล้านบาทเป็นการรับที่เร็วกว่าปกติที่จะรับรู้ในช่วงไตรมาส 2
ตั้งเป้างานใหม่ 50,000 ล้านบาท
STECON ตั้งเป้ารับงานใหม่สำหรับปี 25 ที่ระดับ 50,000 ล้านบาท นับ ถึงปัจจุบันมีงานใหม่เข้ามาแล้วประมาณ 18,000 ล้านบาท เป็นงานเอกชน 2 โครงการมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาท และเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดงานทางด่วน M7 มูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาทที่รอเซ็น สัญญา ส่วนงานสนามบินอู่ตะเภายังต้องรอต่อไปจนกว่าจะได้รับหนังสือแจ้งเริ่มงาน (NTP) จากภาครัฐเสียก่อน ซึ่งผู้บริหารคาดอย่างเร็วจะเป็นช่วงปลายปีนี้ ส่วน Backlog สิ้น 1Q25 อยู่ที่ 98,000 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจใหม่หลังจากมีการลงทุนในธุรกิจการผลิตน้ำไปแล้วในปี 24 ที่ผ่านมา ล่าสุดยังคงมองหาการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของพลังงานทดแทน งาน Data Center และการลงทุนในธุรกิจ Start up ซึ่งปัจจุบันเตรียมลงทุนในบริษัท Asperitas ที่ให้ทำธุรกิจด้านการระบายความร้อนสำหรับศูนย์ Data Center ส่วนอีกบริษัทจะทำด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง ที่ช่วยเข้ามาบริหารต้นทุนก่อสร้างให้ STECON
คงกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิมก่อน รอปรับหลังงบ 2Q25 ประกาศ
กำไรสุทธิที่ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้และคิดเป็นสัดส่วนกว่า 62% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 555 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เราจะรอจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการหยุดรับรู้ผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วง 2Q25 นี้ ก่อนจะปรับประมาณการที่คาดว่าจะปรับกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการที่ออกมาดีเราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เก็งกำไรเช่นเดิม และประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 8.59 บาท (23.5XPER’25E)