KS Daily View 27.05.2025 >>> จับตาการโหวต งบประมาณแผ่นดินปี 69 เริ่มพรุ่งนี้ มองกรอบ SET วันนี้ 1,165-1,195 จุด แนะนำ STECON และ OSP

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,178.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.07 จุด (+0.18%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์,  ICT, และกลุ่มการเงิน หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์รายงานส่งออกไทยเดือนเม.ย.ที่ยังคงเติบโตได้ในระดับสองหลักโดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังคงเติบโตได้ดี ในวันนี้เราคาดการณ์ว่า SET Index ของไทยมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวในรูปแบบ sideway ประเมินกรอบ 1,165-1,195 จุด เนื่องด้วยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระทบ ทั้งนี้ตลาดรอทิศทางของการโหวตงบประมาณแผ่นดินปี 2569 ที่จะมีการอภิปรายในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังคงมีความผันผวนสูงจากปรับนโยบายทางภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ที่มีการปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตลาดยังคงรอความคืบหน้าการเจรจาของไทยกับสหรัฐ โดยที่ไม่ได้ให้น้ำหนักมากกับตัวเลขส่งออกที่ออกมาดีเนื่องจากแนวโน้มที่ยังไม่แน่นอนในอนาคต เราแนะนำการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง STECON เก็งประโยชน์จากงบประมาณการลงทุนของรัฐปี 2569 และ OSP ที่มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งและ GPM ที่ปรับตัวดีขึ้น

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. หลังจากรัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในสงครามยูเครน ด้วยโดรน 355 ลำและขีปนาวุธ 9 ลูก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า “บ้าไปแล้ว” ในโซเชียลมีเดียและอาจมีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม หากมีการประกาศการคว่ำบาตรเพิ่มเติมมองเป็นบวกกับกลุ่มพลังงาน
  2. ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าในช่วงปลายปี 2025 แนวโน้มลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 3.98 บาทต่อหน่วย เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงลดลงและเงินบาทแข็งค่า โดยตั้งเป้าให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชนให้ต่ำกว่าระดับปัจจุบัน พร้อมทั้งบริหารหนี้ที่เกิดจากการรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิงที่ยังเหลืออยู่ราว 7.1 หมื่นลบ. มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบกับโรงไฟฟ้าSPP อย่าง GPSC และ BGRIM
  3. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลมีแผนผลักดันการใช้คริปโตเคอร์เรนซีในระบบเศรษฐกิจจริง โดยเริ่มทดลองในกลุ่มนักท่องเที่ยวในบางพื้นที่ของประเทศ และอยู่ระหว่างศึกษาการนำ คริปโตฯ ผูกกับบัตรเครดิต เพื่อซื้อสินค้าในประเทศ พร้อมหารือกับ ธปท. เพื่อเตรียมทดลองระบบก่อนนำไปใช้งานจริง มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยกับกลุ่มธนาคาร
  4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนเมษายน 2025 ขยายตัว 10.2% YoY คิดเป็นมูลค่า 25,625 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ระดับ 12.2%YoY หากหักสินค้าที่ผันผวน เช่น น้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ยังคงขยายตัวได้ 7.1% YoY หนุนโดยการเติบโตของภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 16.6% YoY โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และยางพารา มองว่ายอดส่งออกที่เติบโตได้ดีจะเป็นบวกระยะสั้นกับราคาหุ้นกลุ่ม Electronics (KCE HANA DELTA) และยาง (STA STGT TEGH) แต่อย่างไรก็ตามมองว่ามีแนวโน้มชะลอตัวในครึ่งปีหลังจาก restocking demand ที่ชะลอตัวประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะกดดัน GPM ใน 2Q25
  5. เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ ถังเก็บน้ำมันเตา ในโรงกลั่นน้ำมันเอสเมรัลดัส (Esmeraldas) ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของเอกวาดอร์ โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติPetroecuador และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของประเทศยืนยันว่า ขณะนี้ สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยกับค่าการกลั่นและกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP SPRC BCP BSRC

Daily pick

STECON: ราคาพื้นฐานที่ 9.86 บาท 

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ STECON จากรายงานผลประกอบการหลัก 1Q25 ที่ 341.5 ลบ. (+716% YoY และ -52% QoQ) สูงกว่าประมาณการของเราไป 22% ทั้งนี้มองว่ากำไรใน 2Q25 อาจเติบโตขึ้นทั้ง YoY, QoQ จากผลขาดทุนบึงหนองบอน (BNB)ที่หมดไปในปีที่ผ่านมา รวมไปถึงเก็งการรับรู้ผลขาดทุนรถไฟฟ้าสีชมพูน้อยลงจากการเปลี่ยนมาตรฐานการบัญชี  ในส่วนของ backlog อยู่ที่ระดับ 1.25 แสนลบ. ณ 1Q25 (+30% YoY และ +7.7% QoQ) คิดเป็นการลงนามในโครงการใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นลบ.ใน 1Q25 จากโครงการภาคเอกชน 2 โครงการ โดยbacklog ล่าสุดอาจครอบคลุมการคาดการณ์รายได้ 4 ปีของเรา

OSP: ราคาพื้นฐานที่ 20.60 บาท 

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ OSP มากขึ้นหลังจากส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 45.0% (+10 bps MoM, -30 bps YoY) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันจากระดับต่ำสุดที่ 44.5% ในเดือนธ.ค. 2024 และอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 39–40% ในปี 2025 จากโครงสร้างรายได้ที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยมูลค่าหุ้นปัจจุบัน OSP ซื้อขายอยู่ด้วย PER ปี 2025 ที่ 15.4 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 2SD

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตาม คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (Durable goods orders) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -7.8% MoM ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +9.2%MoM และดัชนีธุรกิจภาคการผลิตของธนาคารกลางรัฐดัลลาส (Dallas Fed Manufacturing Index) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -26.1 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -35.8 จุด

วันพุธ ติดตามผลการประชุม ครม. เรื่องการโหวต พรบ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จำนวนไม่เกิน 3.780 ล้านล้านบาท ต่อด้วยรายงานดัชนีภาคการผลิตของรัฐริชมอนด์ (Richmond Manufacturing Index) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -10 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -13 จุด และรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC minute)

วันพฤหัสบดี ติดตามการรายงานครั้งที่สองของ GDP 1Q25 สหรัฐอเมริกา ตลาดคาดที่ -0.3% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดคาดการณ์ที่ 2.30 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.27 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย (TH Industrial Production) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -3.45% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.66% YoY ต่อด้วย ตัวเลขส่งออก (TH Exports) ของ ธปท. เดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 17.7% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH Imports) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 9.4% YoY ปิดท้ายด้วยรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคลของสหรัฐ (US Core PCE Price Index)เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.5% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.6% YoY

- Advertisement -