บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
SRI TRANG AGRO INDUSTRY (STA TB)
เริ่มถูกกระทบจากภาษีนำเข้าใน 2Q25
ไม่เพียงแต่ไม่มีสัญญาณการเร่งตุนสินค้า แต่รายได้คาดจะเริ่มชะลอตัวใน 2Q25
ผู้บริหารเริ่มมีมุมมองที่ระมัดระวังมากยิ่งขึ้นสำหรับในช่วง 2H25
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 และคำแนะนำเป็น “ถือ”
เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบทางตรงจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
แม้ว่าถุงมือยางของไทยจะถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า 10% ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่เรียกเก็บจากประเทศคู่แข่งอย่างจีน ลูกค้ายังต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายภาษีดังกล่าวทั้งหมด ในขณะที่สินค้ายางต้นน้ำอย่างยางก้อนได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปริมาณขายถุงมือยางและยางธรรมชาติใน 2Q25 จะลดลง QoQ ทั้งจากลูกค้าชาวสหรัฐฯ และที่ไม่ใช่ชาวสหรัฐฯ ซึ่งชะลอคำสั่งซื้อเนื่องจากความไม่แน่นอนในด้านภาษีนำเข้า ซึ่งทำให้ลูกค้าส่วนมากเลือกที่จะรอดู จากเหตุผลดังกล่าว ราคาขายถุงมือยางจึงอ่อนตัวตามความต้องการที่ลดลงและราคายางธรรมชาติที่ลดลงตามราคายางของ SICOM
ผู้บริหารมีมุมมองที่ระมัดระวังมากยิ่งขึ้นสำหรับในช่วง 2H25
ตั้งแต่ทรัมป์ประกาศภาษีนำเข้าเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ราคายาง TSR 20 ของ SICOM ได้ปรับตัวลดลง 15% มาอยู่ที่ 165–175 เซ็นต์/กก. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาขายของ STA ตั้งแต่ 3Q25 เป็นต้นไป บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตของปริมาณขายถุงมือไว้ที่ 10% y-y ในปี 2025 และตั้งเป้าปริมาณยางธรรมชาติทรงตัว y-y อย่างไรก็ดี ผู้บริหารมีมุมมองที่ระมัดระวังมากยิ่งขึ้นจากปัญหาในการประเมินสถานการณ์ภาษีนำเข้า ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไร 1Q25 อาจเป็นจุดสูงสุดของปีนี้
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025
จากแนวโน้มกำไร 2Q25 ที่อ่อนตัวลงเร็วกว่าที่เคยคาด โดยไม่เพียงแต่ไม่มีสัญญาณการเร่งตุนสินค้า แต่คาดว่ารายได้จะเริ่มชะลอตัว เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ของเราลง 8% เป็น 1.79 พันลบ. (+7% y-y) แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะลดลง แต่ราคาขายน่าจะลดลงเร็วกว่า ในขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อที่ชะลอตัวยังอาจกดดันอัตราการใช้กำลังการผลิต ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของทั้งธุรกิจยางธรรมชาติและถุงมือยาง
ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” หลังลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17 บาท
เราปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 17 (จาก 20) บาทหลังปรับค่า P/BV เป้าหมายเป็น 0.5x (-1SD) และปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” เพื่อรอการฟื้นตัวในด้านปริมาณคำสั่งซื้อ สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ เราแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นตามแนวโน้มราคายาง ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาดูประกอบด้วย 1) สถานการณ์ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ; 2) แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และ 3) ความเสี่ยงที่การบังคับใช้กฎหมาย EUDR จะเลื่อนออกไปอีก หลังปัจจุบันมีกำหนดบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวในสหภาพยุโรปตอนสิ้นปีนี้
อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม: