บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
AMATA CORPORATION (AMATA TB)
ยังไม่เห็นสัญญาณลบจากมาตรการภาษีสหรัฐ
เราปรับประมาณการกำไรปี 2025-27 ลง 6%/25%/26% จากการปรับลดรายได้สาธารณูปโภคและรายได้ค่าเช่า
ไม่น่ากังวลกับรายได้ธุรกิจนิคมฯ ในปี 2025 เพราะ Backlog ที่สูง 2.1 หมื่นลบ.
ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 23 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
ปรับลดประมาณการกำไรจากการปรับลดรายได้สาธารณูปโภค
เราปรับประมาณการกำไรของ AMATA ในปี 2025-27 ลง 6%/25%/26% โดยหลักมาจากการปรับลดรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคและรายได้จากการค่าเช่า ทั้งนี้ ในช่วง 1Q25 รายได้จากค่าสาธารณูปโภคลดลงเพราะลูกค้ารายหนึ่งในประเทศเวียดนามใช้ไฟฟ้าลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการนำเข้าในตลาดสหรัฐ สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะยังคงมีอยู่ใน 2Q25 แม้ว่าลูกค้ารายดังกล่าวจะมีความพยายามในการหาตลาดใหม่ แต่เพื่อความระมัดระวัง เราจึงตั้งสมมติฐานให้สถานการณ์นี้คงอยู่ตลอดทั้งปี ส่งผลให้คาดว่ารายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคในปี 2025 จะลดลงราว 9% y-y ก่อนจะทยอยปรับตัวดีขึ้นในปีถัดไป
ในระยะสั้นยังเห็นความต้องการที่ดินในนิคมฯ
สำหรับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บริษัทยังคงเป้ายอดขายปี 2025 ที่ 3,500 ไร่ตามเดิม (แบ่งเป็นไทย 2,500 ไร่ เวียดนาม 500 ไร่ และลาว 500 ไร่) โดยใน 1Q25 ขายได้แล้ว 284 ไร่ และใน 2QTD ขายได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 400 ไร่ คาดว่าทั้งไตรมาส 2Q25 อาจปิดการขายได้ราว 460-470 ไร่ รวมเป็นประมาณ 750 ไร่ใน 1H25 เท่ากับ 44% ของเป้าของเราที่ 1,700 ไร่ สะท้อนว่าท่ามกลางความไม่แน่นอนของมาตรการการขึ้นภาษีของสหรัฐ ยังคงมีความต้องการลงทุนในไทย เป็นไปตามที่ผู้บริหารยืนยันว่ายังไม่เห็นสัญญาณลบอย่างมีนัยสำคัญต่อประเด็นนี้
ปรับรายได้จากธุรกิจนิคมขึ้นจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง
เราไม่กังวลกับรายได้ของธุรกิจนิคมฯ ในปี 2025 จาก Backlog สิ้น 1Q25 สูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท โดยที่ประมาณ 50% คาดว่าจะโอนได้ภายในปีนี้ เราปรับประมาณการรายได้จากธุรกิจนิคมในปี 2025-27 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 4% หลัก ๆ มาจากการปรับเพิ่มสมมติฐานราคาขายหลังจากบริษัทสามารถปรับขึ้นราคาขายได้อีกครั้งในช่วงต้นปีราว 10% ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มสูงกว่าเดิมที่เคยคาด จากการปรับประมาณการรายได้ ทำให้รายได้รวมปี 2025 +5.5% y-y และปี 2026-27 -5.2% y-y และ -11.8% y-y ตามลำดับ การลดลงของรายได้ในปี 2027 มาจากยอดโอนที่ดินที่เราคาดว่าจะชะลอหลังจากเร่งตัวอย่างมากในช่วงปี 2024-26
ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 23 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
เราปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 23 บาท (จาก 34 บาท) โดยปรับลด P/E เป็น 10 เท่า (-1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี) จากความเสี่ยงที่ประเมินได้ยากในระยะข้างหน้า และการขายที่ดินที่เชื่อว่าจะลดความร้อนแรงจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังแนะนำซื้อ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายต่ำที่ 2025E P/E -1.5SD และ 2025E P/BV เพียง 0.7 เท่า
อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม: