บล.กสิกรไทย:
สรุปงบ 1Q68 : REIT & IFF
- REIT และ IFF จำนวน 17 กองทุนภายใต้การวิเคราะห์ของเรา รายงานกำไรปกติรวมในไตรมาส 1QCY68 อยู่ที่ 1.11 หมื่นลบ. (+1% YoY, -1.2% QoQ) เมื่อรวมจำนวนหน่วยทรัสต์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมแล้ว core EPU รวมในไตรมาส 1QCY68 อยู่ที่ 0.218 บาท (-2.2% YoY, -1.6% QoQ)
- หากพิจารณาการเติบโตแบบ YoY พบว่า กลุ่ม REIT ค้าปลีก (-11.7% YoY) และ IFF ด้านการขนส่ง (-4.5% YoY) มีผลประกอบการที่อ่อนแอที่สุด
- ขณะที่กลุ่ม REIT ภาคอุตสาหกรรม (+5.1% YoY) และ REIT อื่น ๆ (BAREIT, INETREIT) มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุด เรามองว่า core EPU ที่อ่อนแอของบางกลุ่มย่อยเป็นผลจาก
1) รายได้ที่ชะลอลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่น้อยลงและปริมาณการสัญจรที่ลดลง
2) ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่สูงขึ้น
3) การปรับปรุงสินทรัพย์ ขณะที่กลุ่ม REIT อื่น ๆ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) มีกำไรหลักที่แข็งแกร่งจากโครงสร้างรายได้ที่คงที่และได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
- กลุ่ม REIT ภาคอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มที่โดดเด่นจากอัตราการเช่าที่ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ ข้อมูลของ IMPACT และ BTSGIF เป็นเพียงตัวเลขประมาณการ
- ปรับลดมุมมองต่อกลุ่มธุรกิจเป็น “กลาง” เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลง ส่งผลให้เกิดความท้าทายแม้เราจะมีการคาดการณ์อย่างระมัดระวัง
- เลือก BAREIT, DIF และ 3BBIF เป็นหุ้นเด่นจากกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพ โดยให้ market IRR ที่ 8%, 8.3% และ 6.1% ตามลำดับ