KS Daily View 05 มิ.ย. 2025>>>ในวันนี้เราคาดว่า SET Index ของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากวันที่ผ่านมา ในกรอบ 1,130-1,145 จากภาพของการเจรจาของไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้พบหารือผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แนะนำ TIDLOR และ AMATA
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.01%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.32% แต่ Dow Jones ลดลง 0.22% หลังจากมีการรายงานข้อมูลการจ้างงานของ ADP ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับ ISM Service PMI ในเดือนพฤษภาคมหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี จากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,132.02 จุด ลดลง 17.16 จุด (-1.49%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ DELTA คาดว่ามาจากความกังวลที่ตลาดอาจนำมาตรการกำหนดน้ำหนักของหุ้นที่อยู่ในการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ไม่ให้เกิน 10% ในวันนี้เราคาดว่า SET Index ของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากวันที่ผ่านมา ในกรอบ 1,130-1,145 จากภาพของการเจรจาของไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้พบหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เพื่อยืนยันความพร้อมของไทยในการเร่งเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ และจะมีนัดหมายการเจรจาในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ในกรณีที่แย่ที่สุดด้วยภาษี 36% ได้รวมอยู่ในประมาณการของเราไปแล้ว
แนะนำหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง TIDLOR จากแนวโน้มผลประกอบการคาดว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มการเงินและ AMATA เก็งแนวโน้มการเจรจาภาษีที่ดีขึ้น
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจต่อเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้ง หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ (ADP) ในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 37,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก โดยทรัมป์เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที โดยมองว่าอาจส่งผลเชิงจิตวิทยาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธปท. ใน 2H25 ที่จะกดดัน NIM ของกลุ่ม ธนาคาร
- กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ร่างกฎหมาย Entertainment Complex ได้ผ่านการยกร่างและเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา โดยคาดว่าจะมีการลงทุนจากภาคเอกชนไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 0.2-0.8% หลังเปิดให้บริการและสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว 1.19-2.38 แสนล้านบาทต่อปีจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายต่อนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 22,300 บาท/คน/ทริป และจำนวนนักท่องเที่ยว 5-20% ต่อปี โดยเฉพาะช่วง low season มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL AWC ERW AAV BA
- ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ย้ำจุดยืนปฏิเสธข้อเสนอด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐ โดยระบุว่าขัดกับหลักการพึ่งพาตนเองของประเทศและอุดมคติของการปฏิวัติอิสลามปี 1979 พร้อมประกาศว่าเตหะรานจะไม่รอการอนุมัติจากสหรัฐในการตัดสินใจเรื่องใด ๆ โดยเฉพาะในประเด็นการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมซึ่งอิหร่านยืนกรานว่าเป็นกุญแจสู่ความเป็นอิสระด้านพลังงาน ขณะที่รายงานของยูเอ็นชี้ว่าอิหร่านเพิ่มการผลิตยูเรเนียมใกล้ระดับใช้ผลิตอาวุธถึง 50% หากยังหาข้อตกลงไม่ได้ อาจมีมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากสหรัฐหนุนให้ราคาพลังงานปรับตัวขึ้น จะเป็นบวกกับ PTTEP TOP SPRC BCP
- สหรัฐได้ส่งข้อเรียกร้องจำนวนมากและเข้มงวดไปยังเวียดนามในการเจรจาการค้า รวมถึงการให้เวียดนามลดการพึ่งพาวัตถุดิบและส่วนประกอบจากจีนในอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีตอบโต้ 46% ที่สหรัฐเตรียมบังคับใช้ โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวถูกส่งถึงกรุงฮานอยหลังการเจรจารอบที่สองช่วงปลายพฤษภาคมที่ผ่านมา มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยกับกลุ่มนิคม WHA AMATA
- นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรี OECD ที่กรุงปารีส และได้พบหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เพื่อยืนยันความพร้อมของไทยในการเร่งเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ โดยทั้งสองฝ่ายตกลงจะประสานข้อมูลอย่างต่อเนื่องและนัดหมายการเจรจาในเร็ว ๆ นี้ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยกับกลุ่มส่งออกอย่าง AAI ITC STGT
- กลุ่มวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันสายอนุรักษ์นิยม และอีลอน มัสก์คัดค้านร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มงบของ ปธน.ทรัมป์ โดยระบุว่าจะเพิ่มหนี้สาธารณะสหรัฐฯ สูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปี มัสก์เรียกร้องให้ร่างใหม่เพื่อลดการขาดดุล ขณะที่ร่างกฎหมายนี้ยังถูกวิจารณ์ว่าตัดสิทธิประกันสุขภาพของประชาชนกว่า 10.9 ล้านคน หนุนเชิง sentiment ให้ US bond yield ปรับตัวลดลง
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- TIDLOR: ราคาพื้นฐาน 19.75 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TIDLOR ที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียน ด้วยปัจจัยหนุนหลัก 4 ด้าน จาก 1)สินเชื่อเติบโตเร่งตัวบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 ไม่น้อยกว่า 6% ซึ่งสูงกว่าปี 2567 และอยู่ในกรอบเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ที่ 5–10% 2)ต้นทุนทางการเงินผ่านจุดสูงสุด คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 3Q68 ก่อนเริ่มปรับตัวลดลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่อนคลาย และมีแนวโน้มทรงตัวในปี 2569 อีกทั้ง TRIS Rating ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ TIDLOR จาก A เป็น A+ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2568 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเงินได้ราว 30–50bps ภายใน 6 เดือนข้างหน้า 3) ต้นทุนความเสี่ยงด้านเครดิตลดลงต่อเนื่องคาดว่า credit cost จะต่ำกว่า 3% ตลอดปี จากการบริหารการติดตามหนี้ที่ดีขึ้น และผลจากการตัดหนี้สูญจำนวนมากในปีก่อน ซึ่งอาจสร้าง upside ต่อประมาณการกำไรได้อีก 2–5% และ 4)การขาดทุนจากการขายรถยึดลดลงจากการฟื้นตัวของราคาขายรถมือสองช่วยลดการขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ยึด ส่งผลให้ต้นทุนต่อรายได้ปรับดีขึ้นกว่าคาด
- AMATA : ราคาพื้นฐาน 23.30 บาท
เรามองการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น AMATA ลงมาบริเวณ 12-14 บาท สะท้อน worst-case scenario ไปพอสมควรแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนของความเสี่ยงด้านสงครามทางการค้าที่ตลาดมองว่าจะส่งผลกระทบต่อ demand ในการซื้อที่ดินของลูกค้าอุตสาหกรรม, เราคาดการณ์ downside จากราคาตลาดอยู่ที่ระดับราว 10% โดยใช้ PBV ที่ระดับ crisis สองช่วงเวลาที่ผ่านมาคือ Hamburger crisis ที่ระดับ 0.6 เท่า และช่วง Covid period ที่ PBV เคยปรับตัวต่ำสุดไปอยู่ที่ 0.7 เท่าจะได้ราคา ระดับ worst case อยู่ที่ประมาณ 12.60-14.75 บาทต่อหุ้น แต่หากการเจรจาของ reciprocal tariffs สามารถบรรลุข้อตกลงได้ จะเป็นแรงปัจจัยหนุนให้ AMATA สามารถปรับตัวกลับขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน (Caixin Services PMI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.1 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.7 จุด ต่อด้วยผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps จากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดคาดการณ์ที่ 2.35 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.40 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟื้อพื้นฐานของไทย (TH CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.83% YoY ชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.22% YoY และตัวเลขเงินเฟื้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (TH Core CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +0.95% YoY ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.98% YoY ต่อด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.30 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.77 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า