KS Daily View 09.06.2025 >>> เม็ดเงินลงทุน Thai ESGX ต่ำคาด กลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ มองกรอบ SET วันนี้ 1,120–1,145 จุด แนะนำ SYNEX และ TOP

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,120-1,155 จุด มองในระยะสั้นตลาดรอดูสถานการณ์การเจรจาการค้า การเมืองทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ในภาพใหญ่แนวโน้มหลักของดัชนีเป็นการปรับตัวลง หลากหลายแรงกดดันเชิงลบทั้งในภาพใหญ่เชิงเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกที่ดูอ่อนแอ กอปรกับการปรับวิธีคำนวณดัชนีหุ้นSET 50 และ SET100 ที่จำกัดน้ำหนักของหุ้นไม่ให้เกิน 10% ทำให้เกิดแรงขายในหุ้นอย่าง DELTA ก่อนการปรับวิธีคำนวณเข้ามากดดันดัชนี ในขณะประเด็นการเมืองก็เร่งระดับทั้งภายในและระหว่างประเทศของไทยและด้านความคาดหวังเรื่องเม็ดเงินจาก Thai ESGX ก็ดูเหมือนว่าจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาไม่ได้มากตามที่ทางการคาดไว้ อย่างไรก็ดี ในช่วงสั้นในระดับสัปดาห์เรามองว่าตลาดเองดูเหมือนรับรู้ประเด็นลบเหล่านี้แล้วไปบ้าง เห็นได้จากดัชนี SET index ที่ได้ปรับตัวลงมาแล้ว 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ดังนั้นมีโอกาสที่สัปดาห์นี้ตลาดอาจแกว่งตัวในกรอบเพื่อรอดูสถานการณ์ต่างๆ โดยหากมีข่าวเชิงบวกเข้ามาดัชนีอาจเด้งฟื้นตัว ด้วยการฟื้นตัวอาจเป็นไปอย่างจำกัด เรายังแนะนำกลยุทธ์การลงทุนเน้นตั้งรับและมีปัจจัยบวกเฉพาะ

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,136.43 จุด ปรับตัวลดลง 1.11% จากสัปดาห์ที่ผ่านมากดดันโดยการปรับลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และ สื่อและสิ่งพิมพ์ ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways อยู่ในกรอบ 1,120–1,145 จุด หลังจากที่ตลาดได้รับรู้ประเด็นลบ ไปแล้วบางส่วน แต่ตลาดยังขาดปัจจัยบวก โดยเม็ดเงินการลงทุน Thai ESGX ยังคงไหลเข้ามาไม่ได้มาก ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อย่าง SYNEX และ TOP

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

อัลแบร์โต มูซาเล็ม ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้เปิดเผยว่า สงครามการค้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์อาจเป็นปัจจัยดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นต่อเนื่อง และหากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าคลี่คลายในเดือน ก.ค. ก็อาจเอื้อให้เฟดพิจารณาลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ หากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาจมองเป็น Proxy ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน 2H25 ของ BoT และการทบให้ NIM ของกลุ่ม Bank ปรับตัวลดลง

รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คน ได้แก่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง, โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ และเจมิสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เดินทางไปกรุงลอนดอนในวันที่ 9 มิ.ย. เพื่อเจรจาการค้ากับจีน ในส่วนของประเทศไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า สหรัฐฯ ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการในการเริ่มต้นการเจรจากับประเทศไทยเกี่ยวกับมาตรการภาษีและการค้า มองเป็น sentiment เชิงบวกเล็กน้อยกับกลุ่มส่งออก AAI ITC ASIAN TU และกลุ่มนิคมอย่าง AMATA WHA

กพอ. เห็นชอบประกาศเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 พื้นที่ 1,941 ไร่ คาดดึงดูดลงทุน 50,000 ล้านบาท และสร้างงาน 25,000 อัตรา และสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 2 พื้นที่ 758 ไร่ มูลค่าลงทุนราว 8,900 ล้านบาท คาดสร้างงาน 7,600 อัตรา พร้อมเห็นชอบร่างกฎหมายสนับสนุน อาทิ การเปิดทางให้แพทย์ต่างชาติมาทำงานในพื้นที่ การจัดการทรัพย์สินโดย สกพอ. และการส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาเขตพิเศษเพื่อช่วยเหลือชุมชน มองเป็นบวกกับ WHA AMATA

ในประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้อนุมัติ 3,962 โครงการ วงเงิน 119,232 ล้านบาทจากงบที่มีอยู่ 157,000 ล้านบาท แยกเป็น 1) โครงสร้างพื้นฐาน ได้มากที่สุด 95,283 ล้านบาท, 2) การพัฒนาการท่องเที่ยว ได้ 6,096 ล้านบาท, 3) การส่งออก/ผลิตภาพ ได้ 10,576 ล้านบาท  และ เศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ ได้ 7,278 ล้านบาท มองเป็นบวกกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STECON และ CK

TOP รายงานความคืบหน้ากรณีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล SBM-2 ใกล้โรงกลั่นใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. 2025 ว่าขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยมีน้ำมันรั่วประมาณ 8,000 ลิตร และหลุดออกจากแนวบูมเพียงบางส่วน ซึ่งได้ดำเนินการขจัดคราบน้ำมันเรียบร้อยแล้ว และ ในวันที่ 6 มิ.ย. ไม่พบคราบน้ำมันและไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ไทยออยล์ยังคงเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมอุปกรณ์หากพบคราบน้ำมันอีก ด้วยราคาหุ้นที่ลดลงมาเป็นโอกาสสะสมหุ้นด้วยราคาเป้าหมาย 33.30 บาทและความเสียหายค่อนข้างจำกัด

Daily pick

SYNEX : ราคาพื้นฐาน 16.60 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SYNEX จากการประชุมที่ผ่านมาโดยบริษัทคงเป้าการเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขาย 2Q25 จะ “เติบโตเลขสองหลัก ตามแผนเปิดตัวสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ของ Huawei ขณะเดียวกันตลาด open market ยังคงทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple และคาดว่าจะได้ Sentiment เชิงบวกจากการจำหน่าย Nintendo Switch 2 ในปลายเดือนมิถุนายน นี้โดยเป้าหมายแรก Nintendo ตั้งเป้ายอดขาย Switch 2 ในไทย 1แสนเครื่อง ภายใน 12 เดือนแรก จากฐาน WAU ปัจจุบัน โดยตลาดในไทยมีราว 6-7 แสนเครื่องคาดการณ์ Margin ดีกว่า overall margin นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าโครงการลงทุนของภาครัฐจะเริ่มฟื้นตัวไม่เกิน 3Q25 และคาดการณ์ไม่มีการตั้งสำรองต่อเนื่องสำหรับลูกหนี้การค้าที่มีอายุเกิน 12 เดือน

TOP: ราคาพื้นฐาน 33.30 บาท 

เราแนะนำเก็งกำไรหุ้น TOP ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการกลั่น 275,000 บาร์เรลต่อวัน และครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% ปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ในระดับมูลค่าต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ด้วย PBV เพียงแค่ 0.4 เท่า ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 และอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2SDอย่างไรก็ตาม เราคาดว่า GRM จะฟื้นตัวในระยะสั้นในไตรมาส 2Q68 หนุนจากการบริโภคน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงขับขี่ของตลาดหลัก รวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ปริมาณสต็อกของก๊าซโซลีนและน้ำมันดีเซลยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งส่งผลให้ Singapore GRM ปรับตัวดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 5.xดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 2 จาก 3.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1Q25 นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันรั่วของSMB ในวันศุกร์ที่ผ่านมามีน้อยกว่าเดิมมาก (13% ของครั้งก่อน) และจำกัดความเสียหายได้เร็วประมาณ 12-15 ชั่วโมง  อาจมีค่าขนส่งเพิ่มประมาณสัปดาห์ละ 1 ล้านเหรียญ และจะน้อยลงช่วงมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นหน่วยที่ 3 ในช่วงเดือน ก.ค. (30 วัน) คาหุ้นที่ลดลงมาเป็นโอกาสสะสมหุ้น มองเป็น sentiment เชิงลบช่วงสั้น จากเหตุสุดวิสัย และความเสียหายค่อนข้างจำกัด

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตามรายงานอัตราเงินเฟื้อของจีน (China CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.2% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.1% YoY ต่อด้วย ตัวเลขส่งออกของจีน (China Export) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +6.1%YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +8.1% YoY และตัวเลขนำเข้าของจีน (China Import)  เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.8% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ -0.2%YoY

วันอังคาร ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในยูโรโซน (Investor Confidence Index) จาก Sentix เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -5.5 จุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -8.1 จุด

วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินสหรัฐฯ (US CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.5% YoY เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.3% YoY และ Core CPI ตลาดคาดที่ +2.9%YoY เพิ่มขึ้นจาก +2.8% YoY ในเดือนก่อนหน้า

วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.6% YoYเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +2.4% YoY ปิดท้ายด้วย จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.41 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.47 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมฝั่งยุโรป (EU Industrial  production) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +1.4% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +3.6% YoY ต่อด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 53.5 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 52.2 จุด

- Advertisement -