Daily Focus ต่างประเทศหนุน แต่ในประเทศขาดปัจจัยบวก

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งบวกในช่วงแรกตามตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ทยอยอ่อนตัวลงก่อนปิดลบบางๆ 1.19 จุด ที่ระดับ 1,135.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 2.4 หมื่นลบ. แม้จะมีแรงพยุงจาก DELTA ที่ปรับตัวขึ้นแรงพอสมควร อย่างไรก็ตามตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้น แต่บางลงเหลือ 556 ลบ. และ 203 ลบ. ตามลำดับ (ส่วนสถานะใน Index Futures สุทธิยังเบาบางไม่มีนัย
ยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่ง Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,130–1,145 จุด โดยแรงหนุนยังคงมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าสหรัฐ–จีน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องคาดหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานต้น–กลางน้ำ สำหรับการเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีนวันแรกโทนเป็นบวกอ่อนๆ โดยโฟกัสของการเจรจาอยู่ที่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมส่งออกด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และกับจีนที่จะผ่อนคลายการส่งออกแร่หายาก โดยจะเจรจาต่อวันนี้เป็นวันที่ 2 ทำให้บรรยากาศการลงทุนยังค่อนไปในทางบวกและเม็ดเงินยังทยอยไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ผ่านแนวต้านระยะสั้น US$65 ต่อบาร์เรล ทำให้มีโอกาสไต่ระดับเข้า US$68–70 ต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของ SET Index คาดว่า Upside ยังจำกัด เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นในประเทศ โดยตลาดยังคงกังวลต่อโมเมนตัมเศรษฐกิจที่อ่อนแรง และขาดมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล รวมถึงการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการปรับ ครม. และเสถียรภาพของรัฐบาล หากยังไม่กลับไปยืนเหนือแนวต้าน 1,360 จุด ภาพรวมจะยังไม่กลับมาเป็นบวก เราจึงยังเน้นกลยุทธ์ Bottom Up เลือกลงทุนในหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว

กลยุทธ์ : ยังเน้นเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2Q25–2025 แข็งแกร่งและมีความแน่นอนของกำไรสูง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : CPALL, MTC, OSP, SJWD, STECON
FSSIA Portfolio : BA, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON

หุ้นเด่น Finansia 10 มิ.ย. 25 : TOP

– แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 29.71 บาท

– ราคาน้ำมันดิบที่เร่งตัวขึ้นและทำ High จากรอบล่าสุดได้ระยะสั้นคาดเป็น Sentiment หนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำ ขณะที่ค่าการกลั่นยังอยู่ในระดับสูงราว US$7 ต่อบาร์เรล คาดหนุนผลการดำเนินงาน 2Q25 เติบโต

– กรณีน้ำมันรั่วบริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเลกระทบจำกัด โดยทุ่นรับน้ำมัน (SBM-2) เสียหายเพียงเล็กน้อย และมีปริมาณน้ำมันรั่วไหลไม่มากและสามารถขจัดได้ ส่วนความเสียหายอื่นๆ ประกันน่าจะ cover ได้เกือบหมด ราคาหุ้นปรับลงน่าจะสะท้อนผลกระทบไปแล้วและเป็นผลกระทบที่จำกัด

– แนวรับ 27 บาท แนวต้าน 29//30 บาท 

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$815 ล้าน แต่กระจุกตัวที่เกาหลีใต้ประเทศเดียว US$834 ล้าน ส่วนไต้หวันทรงตัว ขณะที่ฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลออกบางๆ ทั้งฟิลิปปินส์ ไทย และสูงสุดที่เวียดนาม US$13 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าจะยังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า แต่เบาบางลง โดยตลาดยังรอติดตามการเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีนในวันนี้เป็นวันที่ 2

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) M การส่งเสริมการขาย Buffet 299 บาท/หัว ในสาขา BigC และ Lotus’s จะช่วยสร้างกระแสและบรรยากาศเชิงบวกต่อราคาหุ้นและสะท้อนการแข่งขันอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมร้านอาหาร เราคาดตัวเลข SSSG ของสาขาที่ให้บริการบุฟเฟต์จะพลิกเป็นบวกในเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตามยังจำเป็นต้องจับตาดูผลตอบรับแต่แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 24 บาท

(+) SCGP แจ้งตลาดฯ เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม 30% ใน Duy Tan ด้วยเงินลงทุน 3.7 พันลบ.เวียดนามครบ 100% เพื่อเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจปลายน้ำ เรามองการลงทุนครั้งนี้เป็นบวกและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ SCGP ที่ต้องการขยายสู่บรรจุภัณฑ์ปลายน้ำ ราคาเข้าซื้อคิดเป็น PER 15 เท่า ต่ำกว่าตัว SCGP ที่เทรด 17 เท่า ขณะที่ Profitability ของ Duy Tan ดีกว่า เราคาดว่าจะช่วยหนุนการเติบโตระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ ราคาเป้าหมายปัจจุบัน 29 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) EPG แนวโน้มกำไรปกติผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3QFY25 (ต.ค.–ธ.ค. 2024) อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ โดยเฉพาะธุรกิจ Aeroklass และ EPP ที่ยังถูกกระทบจากกำลังซื้อและภาคยานยนต์ที่ยังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม Margin ของธุรกิจ Aeroflex แข็งแกร่ง หนุนธุรกิจอื่นและไม่ถูกกระทบจากภาษีการค้าเพราะนำเข้าวัตถุดิบเพียงพอถึงสิ้นปีนี้แล้ว ในด้าน Valuation เทรดค่อนข้างถูก -2SD ของ EV/EBITDA เฉลี่ย 5 ปี ทำให้ downside จำกัด เรายังคงประเมินราคาเป้าหมาย 4 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) คาดการณ์หุ้นเข้า–ออก SET50/100 งวด 2H25 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า TCAP BCP KKP หุ้นออก GLOBAL BGRIM ITC ส่วน SET100 หุ้นเข้า MBK TFG JTS AURA TOA TVO SVI หุ้นออก COCOCO ERW JMART ROJNA SAPPE SKY SNNP โดย ตลท. จะประกาศผลอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย.

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 1.11 จุด หรือ -0.003%, ปิดที่ 42,761.76 จุด ส่วนดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้น Amazon (Amazon) และหุ้น Alphabet (Alphabet) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทด้านการค้า รวมทั้งจับตาการ
เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนล็อตใหญ่ ขณะรอผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่จัดขึ้นในกรุงลอนดอน

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก หวังความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ลอนดอน

(-) ค่าเงินบาท แข็งค่าอยู่ที่บริเวณ 32.68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -0.17%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 65.29 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กรุงลอนดอนจะมีความคืบหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 65.35 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.09%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.30 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 3,354.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กรุงลอนดอน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ในขณะที่เช้านี้ลดลงอยู่ที่ระดับ 3,347.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.24%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 936.22 / 0.22%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

10 มิ.ยอังกฤษ: อัตราการว่างงาน (เม.ย.)
11 มิ.ย.สหรัฐ: เงินเฟ้อ CPI (พ.ค.)
12 มิ.ย.สหรัฐ: เงินเฟ้อ PPI (พ.ค.)
13 มิ.ย.สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและเงินเฟ้อคาดการณ์มิชิแกนเงินเฟ้อ PPI (มิ.ย.)
16 มิ.ย.จีน: ยอดค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม (พ.ค.)
- Advertisement -