ทรัมป์ประกาศเจรจากับจีนเป็นไปด้วยดี แต่เรามองยังอาจไม่ใช่
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดทรงตัว (-0.003%) นักลงทุนวิตกความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งได้บดบังปัจจัยบวกจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอลง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 4.3% หลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ เตรียมอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตในอิรัก เพราะกังวลความปลอดภัย
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา ทรัมป์ออกมาโพสต์ใน Truth Social ว่าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนได้เสร็จสิ้นแล้ว รอการอนุมัติจากประธานาธิบดีจีน โดยจีนจะจัดหาแม่เหล็กและแร่ธาตุหายากให้กับสหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯ ก็จะต้อนรับนักศึกษาจากจีนในมหาวิทยาลัยของเรา แต่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 55% ขณะที่จีนจะเรียกเก็บจากสหรัฐฯ 10% ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนค่อนข้างเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ สหรัฐฯ และจีนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และนี่จะเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่สำหรับทั้งสองประเทศ
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ได้รายงานเงินเฟ้อ (CPI) พบว่าขยายตัวเพียง 2.4%YoY ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 2.5%YoY ราคาพลังงานยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันไม่ให้เงินเฟ้อเร่งแรงจนเกินไป น้ำมันเบนซิน (-12%YoY) เครื่องแต่งกาย (-0.9%YoY) จึงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเป็นหลัก ล่าสุดเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของราคาน้ำมันดิบหลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ กับอิหร่านเกิดความขัดแย้งระหว่างกันจนทำให้สหรัฐฯ เริ่มอพยพประชาชนสหรัฐฯ ในอิหร่าน หากราคาน้ำมันฟื้นตัวแรงจะเป็นปัจจัยกดดันภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมองเป็นเพียงระยะสั้นมากกว่า เนื่องด้วยอุปสงค์โลกน่าจะยังไม่ดีจากการค้าโลกที่ตึงตัว
ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมด พบว่า US Bond Yield ปรับลง ราคาทองคำฟื้นตัว และเช้านี้ก็ยังฟื้นตัวขึ้นต่อ สะท้อนถึงความกังวลจากนักลงทุนแม้จะมีข่าวเจรจาการค้าก็ตาม เช้านี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็เคลื่อนไหวในแดนลบ (-0.17%) เท่ากับว่ามิได้ตอบรับเชิงบวกกับปัจจัยการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนแต่อย่างใด
ปัจจัยคืนนี้ รอติดตามดัชนี PPI ของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.6%YoY
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1135 – 1155 อาจมีแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน (PTTEP) จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (นักลงทุนระยะสั้นสามารถ Trading ได้) แต่อย่างไรก็ตาม Upside ด้านบนยังดูจำกัดเพราะพื้นฐานยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเลือก Trading ในหุ้นกลุ่ม Global Play อาทิ พลังงาน (PTTEP) ปิโตรเคมี (PTTGC) รวมไปถึงกลุ่มท่องเที่ยว (AOT) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (AMATA, WHA) ส่งออก (ITC, TU)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท)
AOT เป็นผู้ประกอบการที่จะได้รับผลดีจากการที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักในการเติบโตของประเทศ อย่างไรก็ตามระยะสั้นด้วยการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low Season และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ทำให้เราปรับเป้าผู้โดยสารทั้งปีลงจากเดิม 135 ล้านคนเหลือ 130 ล้านคน ส่งผลให้ประเมินกำไรสุทธิได้ใหม่ที่ 18,452 ล้านบาท (-4%YoY) สำหรับผลประกอบการงวด FY2025 มีกำไรสุทธิ 5,053 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ประมาณ 10% ซึ่ง AOT ให้เหตุผลว่าเกิดจากการกันเงินส่วนแบ่งผลประโยชน์ให้ King Power ไปประมาณ 800 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรจะใกล้เคียงคาด
AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท)
ผลประกอบการในปี 2025 ของ AMATA ยังมีโอกาสเติบโตจากปีก่อนได้ จากผลของ Backlog ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้เรายังคงคาดกำไรทั้งปีที่ระดับ 2,975 ล้านบาท (+20%YoY) ไว้เท่าเดิม อย่างไรก็ตามด้วยความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจชะลอการโอนที่ดินไป ซึ่งจะทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ สำหรับคำแนะนำการลงทุน ระยะสั้นเรามองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงเพราะกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าไปมากแล้ว