โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีบทความ “บำรุงราษฎร์ ซวนเซ! เศรษฐีน้ำมันหายหน้า หุ้นร่วงกว่าครึ่ง” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 โดยยืนยันว่าข้อมูลในบทความมีความคลาดเคลื่อนหลายจุด และอาจสร้างความเข้าใจผิดต่อภาพรวมของโรงพยาบาลและธุรกิจบริการสุขภาพของประเทศไทย

โรงพยาบาลระบุว่า รายได้จากผู้ป่วยตะวันออกกลางไม่ได้ลดลงตามที่กล่าวอ้าง กลับเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะจากประเทศกาตาร์ที่มีอัตราการเติบโตถึง 558% ขณะที่รายได้ที่หายไปจากประเทศคูเวตในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่าเพียง 551 ล้านบาท ไม่ใช่ 1.3 พันล้านบาทตามที่บทความระบุ และไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านคุณภาพ แต่เป็นผลจากการปรับนโยบายด้านสาธารณสุขภายในประเทศ

ทั้งนี้ โรงพยาบาลยังเปิดเผยว่า ผู้ป่วยชาวคูเวตประมาณ 30% ได้กลับมาใช้บริการแล้วในปี 2567 คิดเป็นรายได้กว่า 416 ล้านบาท พร้อมระบุว่าผู้ป่วยจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์ยังคงเดินทางเข้ามารับการรักษาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเคสที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังชี้แจงว่าบทความมีการเปรียบเทียบราคาชุดตรวจสุขภาพที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยระบุว่าราคาเริ่มต้นของชุดตรวจสุขภาพอยู่ที่ 7,000 บาท ไม่ใช่ 16,100 บาท พร้อมเน้นว่าการเปรียบเทียบราคาควรพิจารณาร่วมกับคุณภาพการดูแล เทคโนโลยีที่ใช้ และความเชี่ยวชาญทางการแพทย์

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังย้ำว่า ชื่อเสียงระดับโลก ฐานผู้ป่วยจากกว่า 190 ประเทศ และการได้รับการจัดอันดับโดย Newsweek ให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกติดต่อกัน 5 ปี เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความไว้วางใจที่ได้รับ พร้อมเผยถึงแผนขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะในซาอุดีอาระเบีย ภายใต้ความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างไทย-ซาอุฯ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสูง

โรงพยาบาลยืนยันว่า ยังคงมุ่งมั่นในพันธกิจเพื่อมอบการดูแลที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาคอย่างยืดหยุ่นและยั่งยืน

- Advertisement -