ซีอีโอ PQS โชว์วิสัยทัศน์งานเวทีอาเซียน แนะทางรอดอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังต้องสร้างนวัตกรรมผ่านความร่วมมือรัฐ-เอกชน
ซีอีโอ บมจ.พรีเมียร์ ควอลิตี้ สตาร์ช ขึ้นเวทีเสวนา “Global Cassava Sustainability Forum 2025” โชว์วิสัยทัศน์ แนะเปลี่ยนความท้าทายในอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังให้กลายเป็นโอกาสผ่านการสร้างนวัตกรรม และความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน พร้อมชูแผนลงทุนผลิตมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำ เพื่อยกระดับมันสำปะหลังไทยให้เป็นพืชที่สะอาดและส ามารถตรวจสอบย้อนกลับได้มากที่สุดในโลก รวมทั้งต่อยอดผลิตภัณฑ์ส่งแป้งดัดแปร สู่ทางรอดธุรกิจ
งานดังกล่าว จัดขึ้น ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกับ เครือข่ายหน่วยงานระดับอาเซียน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพรีเมียร์ ควอลิตี้ สตาร์ช หรือ PQS กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังมาอย่างยาวนาน แต่วันนี้ เราเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากวิกฤตภูมิอากาศ ความผันผวนของตลาด และแรงกดดันในการสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนโดย PQS เห็นว่าทางรอดของอุตสาหกรรมนี้ คือ การเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาส ผ่าน “การสร้างนวัตกรรม และความร่วมมือแบบภาครัฐ และเอกชน”
ที่ผ่านมา PQS ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น วิจัยการสกัดใยอาหารจากกากมันสำปะหลัง ,การผลิตพลาสติกชีวภาพเพื่อการพิมพ์ 3 มิติ และพัฒนาสารพรีไบโอติกจากวัสดุเหลือจากการผลิต ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า “Waste to Value” เกิดขึ้นได้จริง ถ้ามีการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)
นายรัฐวิรุฬห์กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างลงทุนใน การผลิตมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำ โครงการที่อาศัยการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง เกษตรกร นักวิจัย และผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับมันสำปะหลังไทยให้เป็นพืชที่สะอาดและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้มากที่สุดในโลก
นายรัฐวิรุฬห์ ยังกล่าวถึงบทบาทของบริษัท พรีเมียร์โมดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด (PMS) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PQS ว่า “PMS คือตัวอย่างของการยกระดับอุตสาหกรรมแป้งมันไทยด้วยนวตกรรม ในการต่อยอด ไปสู่ทางรอดทางธุรกิจ แต่การจะเดินไปต่อได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน”
โดย PQS ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมันสำปะหลังของโลก อย่างแท้จริง และสอดคล้องกับเป้าหมาย “ครัวของโลก” ของประเทศไทย เพราะเมื่อวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวม มาพบกับพลังสร้างสรรค์ของธุรกิจ เราจึงสามารถเปลี่ยนพืชผลทางเกษตรให้กลายเป็นนวตกรรมอาหาร ที่ปลอดภัย มีคุณค่า และพร้อมสำหรับโลกอนาคต