Daily Focus: หากผ่านแนวต้านหลัก 1,120 จุด เปลี่ยนทิศทางเป็นบวก

ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index ฟื้นตัวได้แข็งแกร่งกว่าที่คาด ปิดบวกได้ถึง 37.23 จุด กลับมายืนระดับ 1,100 จุดได้อีกครั้ง ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น 5.3 หมื่นลบ. โดยมีแรงซื้อกลับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างกระจายตัว หลังมีข่าวอิสราเอล-อิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่การประชุม ครม. ผ่านงบกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนแรก 1.15 แสนลบ. สถาบันในประเทศและบัญชี บล. ซื้อสุทธิสูงสุด 1.3 พันลบ. และ 1.7 พันลบ. ตามลำดับ ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางๆ 240 ลบ. รายย่อยเป็นฝ่ายขาย 3.2 พันลบ. (แต่ต่างชาติยัง Long Index Futures สุทธิอีกสูงถึง 2.7 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาดว่า SET Index จะแกว่ง Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,085–1,120 จุด ชะลอความร้อนแรงหลังจากที่ตอบรับประเด็นบวกทั้งการหยุดยิงระหว่างอิสราเอล–อิหร่าน รวมถึง ครม. ที่เคาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนลบ. เม็ดเงินยังไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงจากความกังวลด้าน Geopolitics และเงินเฟ้อที่เบาลง โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่อง ล่าสุด Brent อยู่ที่ราว US$68 ต่อบาร์เรล ขณะที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ชะลอเหลือ 4.3% ส่วนสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำปรับตัวลง 2% สู่ระดับ US$3,328 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ด้านนโยบายการเงิน Comment ของประธาน FED ยังระบุว่าจะไม่เร่งรีบในการลดดอกเบี้ย จากเงินเฟ้อที่ยังมีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมาย รวมถึงรอดูความชัดเจนผลกระทบจากภาษีการค้า โดยตลาดยังคงคาดหวังการลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในช่วง 2H25 โดยเริ่มในเดือน ก.ย.

ส่วนปัจจัยในประเทศ เราคาดว่ามีโอกาสเห็นโมเมนตัมเศรษฐกิจที่ดีขึ้นบ้างหลัง ครม. เคาะเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนใหญ่ รวมถึงการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น แม้เสถียรภาพจะยังต่ำ ส่วนการประชุม กนง. วันนี้เราประเมินโอกาสที่จะคงดอกเบี้ยที่ 1.75% มีสูง โดยคาดว่าคณะกรรมการอาจยังรอดูผลกระทบของภาษีทรัมป์ก่อนเช่นกัน รวมถึงผลของมาตรการกระตุ้นจากนโยบายการคลัง เราประเมินหุ้น Domestic Play มีโอกาสฟื้นตัวในช่วงสั้น หลังจากปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือสัปดาห์หน้าว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องปมคลิปสนทนาของนายกฯ และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ อาจทำให้ประเด็นการเมืองในประเทศกลับมา Overhang อีกครั้ง

กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีแนวโน้มผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.: CPALL, MTC, OSP, SJWD, STECON

FSSIA Portfolio: BA, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON

หุ้นเด่น Finansia 25 มิ.ย. 25 : MTC

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 56 บาท
  • โมเมนตัมกำไร 2Q25 คาดว่ายังดูดีที่สุดในกลุ่ม จากทั้งสินเชื่อที่คาดว่ายังเติบโต ขณะที่ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแรงและจัดการได้ดี ทำให้ Credit cost โดยรวมคาดว่าจะลดลง ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากครม.คาดช่วยหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้บ้างในระยะถัดไป
  • เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2025 ที่ 7.1 พันลบ. +21% y-y ระยะสั้น Bond Yield ทั่วโลกที่ขยับลง รวมถึงการประชุมกนง.วันนี้หากปรับลดดอกเบี้ยลงจาก 1.75% เหลือ 1.5% จะ Surprise ตลาดที่ 70% คาดจะคงดอกเบี้ย 
  • แนวรับ 36//35 บาท แนวต้าน 39//40 บาท 

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$1,609 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$1,213 ล้าน และ US$450 ล้านตามลำดับ ขณะที่ฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าไทย US$7 ล้าน แต่ไหลออกจากอินโดนีเซียเร่งขึ้นเป็น US$57 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า แต่ปริมาณบางลงหลังตอบรับประเด็นหยุดยิงระหว่างอิสราเอล–อิหร่านไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ประธาน FED ยังระบุว่าไม่เร่งรีบที่จะลดดอกเบี้ยโดยรอความชัดเจนจากผลกระทบของภาษีการค้า

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มท่องเที่ยว: นักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ 25 (16–22 มิ.ย.) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.47 หมื่นคน/วัน +4% w-w, -18% y-y ยังคงลดลง y-y เป็นสัปดาห์ที่ 20 นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน +11% w-w แต่ -40% y-y ส่วนกลุ่ม Non-Chinese +2% w-w และ -13% y-y ส่วนโครงการเที่ยวคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท จำนวน 5 แสนสิทธิ ใช้ใน 3Q25E คาดว่า destination ที่นักท่องเที่ยวจะไปใช้สิทธิมากสุดยังคงเป็น ชลบุรี ประจวบฯ เพชรบุรี ภูเก็ต หุ้นที่ได้ประโยชน์มากสุดจะเป็น CENTEL และ ERW ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในต่างจังหวัด 26% และ 23% ตามลำดับ

(0) AOT: คาดกำไรปกติ 3QFY25 ที่ 3.8 พันลบ. -26% q-q, -17% y-y จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงและเป็น low season ท่องเที่ยวไทย คาดรายได้รวม -13% q-q, -5% y-y หลักๆ มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง แนวโน้ม 4QFY25 คาดกำไรปกติยังคงลดลงทั้ง q-q, y-y เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี FY25/26/27 ลง 15%/29%/29% เป็นกำไรปกติ ปี 2025 –8% y-y, ปี 2026 ทรงตัว และ +6% y-y ในปี 2027 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 29.75 บาท แม้แนวโน้มนักท่องเที่ยวยังอ่อนแอและยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทาน Duty-free ซึ่งขณะนี้รอผลการศึกษา แต่อาจได้แรงหนุนจาก PSC ที่มีโอกาสการปรับขึ้น จึงยังแนะนำ “ถือ”

(0) M: SSSG เดือน มิ.ย. กลับมาเป็นบวก 15–20% หนุนจาก buffet campaign และคาดจะสามารถชดเชย SSSG ที่ติดลบในช่วง เม.ย. และ พ.ค. ได้บางส่วน โดยเราคาด SSSG 2Q25 ที่ -4.5% y-y ทำให้รายได้รวม 2Q25 ยัง -5% y-y แต่ +10% q-q และคาดมีกำไรสุทธิ 241 ลบ. +3% q-q แต่ -40% y-y หากกำไรตามคาด จะทำให้กำไรสุทธิ 1H25 ที่ 475 ลบ. -36% y-y การฟื้นตัวของกำไรยังอยู่ระดับต่ำ เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ลง 22% เป็น 1.13 พันลบ. -21% y-y ราคาเป้าหมายใหม่ 18.5 บาท Div. yield 8% แม้มองบวกต่อการปรับกลยุทธ์ โดยเฉพาะการออกจาก comfort zone แต่ยังต้องตามดูผลลัพธ์ต่อไป ยังแนะนำ “ถือ”

(0) CRC: เปิดตัว CEO ท่านใหม่ คุณสิทธิสาร จิราธิวัฒน์ บริษัทตั้งเป้ารายได้ และ EBITDA +5% y-y ในช่วง 2025–27 และมีแผนขยายสาขาราว +4–6 สาขา/ปี ใน 2025–27 และคาดใช้เงินลงทุน 1.3–1.5 หมื่นลบ. สำหรับแนวโน้ม 2025 ผู้บริหารประเมินว่ายังเป็นปีที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยให้เป้ารายได้เติบโต 4–6% y-y ส่วน SSSG QTD 2Q25 ยังลดลงราว mid-single digits

(0) หุ้นเข้า–ออก SET50/100 งวด 2H25
SET50 เข้า: BCP, KKP, TCAP, TIDLOR
SET50 ออก: BGRIM, GLOBAL, ITC, SAWAD
SET100 เข้า: AURA, JTS, MBK, TFG, TOA, WHAUP
SET100 ออก: CKP, COCOCO, ROJNA, SAPPE, SKY, SNNP

ปัจจัยต่างประเทศ

(+) ดาวโจนส์ +507.24 จุด หรือ +1.19% ปิดที่ 43,089.02 จุด ขานรับข่าวอิสราเอล–อิหร่านทำข้อตกลงหยุดยิง และประเมินถ้อยแถลงของประธาน FED

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งตามข่าวหยุดยิง แม้ราคาน้ำมันฉุดกลุ่มพลังงาน

(+) หุ้นเอเชียเปิดบวกตามสหรัฐฯ จากข่าวหยุดยิง

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 32.67 บาท/ดอลลาร์ -0.23%

(-) น้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 4.14 ดอลลาร์ หรือ 6.04% ปิดที่ 64.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่ 5 มิ.ย.

(-) ทองคำ COMEX ลดลง 61.10 ดอลลาร์ หรือ 1.80% ปิดที่ 3,333.90 ดอลลาร์/ออนซ์
เช้านี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 3,337.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.09%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 955.68 / -0.18%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

25 มิ.ย.ไทย: ประชุมกนง.

สหรัฐ: Fed Chair Powell Testimony

26 มิ.ย.สหรัฐ: 1Q25 GDP growth (Final), Durable Goods Orders (พ.ค.)
27 มิ.ย.สหรัฐ: Core PCE Price index (พ.ค.)
30 มิ.ย.จีน: NBS Manufacturing PMI (มิ.ย.)
1 ก.ค.สหรัฐ: ISM Manufacturing PMI (มิ.ย.)

ยูโรโซ: เงินเฟ้อ (มิ.ย.)

จีน: Caixin Manufacturing PMI (มิ.ย.)

- Advertisement -