บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
ELECTRICITY GENERATING (EGCO TB) หุ้นไฟฟ้าที่ปลอดภัย
- EGCO ยังเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของไทย บริษัทฯ คงเป้าหมายให้กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแตะ 30% ของกำลังการผลิตรวมในปี 2030
- Yunlin, APEX และโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญของกำไรในปี 2025
- เริ่มด้วยคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 116 บาท (SoTP) คาดผลตอบแทนในรูปเงินปันผลอยู่ที่ 6.2% ต่อปี
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดี พร้อมการเติบโตจากพลังงานหมุนเวียน
เราเชื่อว่าแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิยังคงดี โดยมีปัจจัยผลักดันจากโครงการเพื่อการเติบโตใหม่หลายโครงการ ประกอบด้วย 1) โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin ในไต้หวัน ซึ่งเริ่มดำเนินงานเต็ม 100% ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป 2) การดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของกำลังการผลิตเพิ่มเติมของ APEX 3) การซื้อกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ
ในขณะที่การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหลักและกระแสเงินสดยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากสัญญาซื้อไฟฟ้าระยะยาวที่เซ็นเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยการต่อสัญญา PSA ของ QPL, โรงไฟฟ้าถ่านหิน Paju, XPCL, NTPC และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NT1PC ในลาว และ KEGCO & BLCP ในไทย
คาดกำไรจากการดำเนินงานในปี 2025 จะสูงขึ้นจากธุรกิจในต่างประเทศ
เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2025 จะอยู่ที่ 10.5 พันลบ. สูงขึ้นจาก 5.4 พันลบ. ในปี 2024 เมื่อหักรายการพิเศษ กำไรปกติน่าจะอยู่ที่ 8.5 พันลบ. ลดลงจาก 9.8 พันลบ. ในปี 2024 โดยมีปัจจัยถ่วงสำคัญจากกำไรที่ลดลงของ QPL หลังต่อสัญญา PSA กับผู้จัดส่งไฟฟ้ารายย่อยในอัตราที่ลดลง อย่างไรก็ดี กำไรจากการดำเนินงานในปี 2025 น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากธุรกิจในต่างประเทศ ประกอบด้วย 1) โรงไฟฟ้า Yunlin ขนาด 640 MW ที่ดำเนินงานเต็ม 100% 2) โรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาวจากกระแสน้ำที่สูงขึ้นในอ่างเก็บน้ำหลังฤดูฝนมาเร็วขึ้น 3) กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมของ APEX จำนวน 841 MW ที่เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ 4) รายได้จากโครงการ Pinnacle II ขนาด 251 MW ที่จะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ 2Q25 เป็นต้นไป
ROE และความสามารถในการทำกำไรจะยังดี พร้อมการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
เราเชื่อว่า ROE และความสามารถในการทำกำไรจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากการซื้อกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง และพอร์ตโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งคิดเป็น 35% ของกำลังการผลิตรวมตามส่วนการลงทุน ณ วันที่ 30 เม.ย. 2025 เมื่อไม่นานมานี้ EGCO ได้ลงทุนใน Pinnacle II ซึ่งมีพอร์ตประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังลม Downeast ขนาด 126 MW และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ Wheatsborough ขนาด 125 MW ทั้งสองโครงการน่าจะช่วยเสริมกำไรของ EGCO และสนับสนุนเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเพิ่มกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2030
เริ่มด้วยคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 116 บาท (SoTP)
เราเริ่มบทวิเคราะห์ของเราด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 116 บาท (SoTP) เราคิดว่าราคาหุ้นมี Downside ที่จำกัด เนื่องจากกำไรมีความชัดเจนสูง พร้อมผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่สม่ำเสมอที่ 6.2% ในทางตรงกันข้าม เราคิดว่าหุ้นกำลังมี Upside เพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี หุ้นยังมี Downside อยู่ที่ผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก 80% ของกำไรจากการดำเนินงานมาจากต่างประเทศ