บล.บัวหลวง
Thai Union Group (TU TB /TU.BK)
คาดกำไรไตรมาส 2/68 ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ต้องไล่ซื้อหุ้น
กำไรหลักในไตรมาส 2/68 มีแนวโน้มดีกว่าคาด แต่การเติบโตของปริมาณขายในกลุ่มอาหารทะเลแปรรูปและอาหารทะเลแช่แข็งยังน้อย โดยมีเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตโดดเด่น เราคงคำแนะนำ “ขาย” เนื่องจาก TU ยังขาดปัจจัยขับเคลื่อนกำไรที่ชัดเจน ขณะที่ ITC มีแนวโน้มการเติบโตและการฟื้นตัวของอัตรากำไรที่ชัดเจนกว่า
กำไรไตรมาส 2/68 มีแนวโน้มดีกว่าที่คาด
เราคาดกำไรหลักของ TU ในไตรมาส 2/68 ที่ 1.11 พันล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดก่อนหน้าที่ 1.0 พันล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากรายได้ที่ไม่ใช่การดำเนินงานที่ดีกว่าคาด ขณะที่การดำเนินงานหลักยังเป็นไปตามคาด ปริมาณขายของอาหารทะเลแปรรูปและอาหารแช่แข็งคาดว่าจะเติบโต 1–2% YoY ขณะที่กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะเติบโต 13–15% YoY โดยไม่มีสัญญาณของการเร่งสต็อกล่วงหน้า ทั้งที่มีการเก็บภาษี 10% จากสหรัฐฯ ในปัจจุบัน เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.0% ปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ทรงตัวและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดว่าจะปรับตัวขึ้นแตะขอบบนของเป้าหมายทั้งปีที่ 14% จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการสร้างแบรนด์และการตลาดในสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงต้นทุนจากโครงการ Transformation ประเด็นนี้ตอกย้ำมุมมองของเราว่า ธุรกิจหลักของ TU ยังดำเนินไปตามปกติโดยไม่มีสัญญาณของการเติบโตแบบก้าวกระโดด
โมเมนตัมในไตรมาส 3/68 จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่น่าสนใจ
เราคาดว่าไตรมาส 3/68 มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น QoQ แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ YoY หนุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ทรงตัวขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และอุปสงค์ในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงที่ยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม กลุ่มอาหารทะเลแปรรูปและอาหารทะเลแช่แข็งยังคงเติบโตในระดับต่ำ รองรับความเสี่ยงภายนอก เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนหรือมาตรการการค้า ได้น้อย ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตและอัตรากำไรที่แข็งแกร่งขึ้นสามารถปรับตัวได้ดีกว่า ซึ่งสะท้อนความไม่สมดุลของพอร์ตธุรกิจ TU โดย TU ยังคงใช้จ่ายค่าการตลาดในผลิตภัณฑ์ที่มีแบรนด์ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งอาจช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดได้ แต่กดดันอัตรากำไรในการดำเนินงานในระยะสั้น โดยรวมเรามองว่าแนวโน้มไตรมาส 3/68 เป็นข่าวดี แต่ยังไม่เพียงพอให้เราปรับคำแนะนำ
ดาวน์ไซด์จำกัด แต่ยังขาดปัจจัยหนุน
ราคาหุ้น TU ปรับตัวลง 5% นับตั้งแต่เราให้คำแนะนำ “ขาย” เมื่อวันที่ 8 เม.ย. แต่หลังจากนั้นราคาก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ผลประกอบการไตรมาส 2/68 และไตรมาส 3/68 อาจมีอัพไซด์เล็กน้อย แต่เรายังคงประมาณการกำไรหลักปี 2568 ที่ 3.58 พันล้านบาท ลดลง 22% YoY เราไม่เห็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตเชิงโครงสร้างในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารทะเลแช่แข็ง และ PER ปี 2568 อยู่ที่ 12.4 เท่า ยังถือว่าเหมาะสม เราชอบ ITC มากกว่า ซึ่งเราได้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. หนุนจากปริมาณขายที่แข็งแกร่งขึ้น การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดีขึ้น และอัตรากำไรที่ฟื้นตัว ITC ซื้อขายที่ PER ปี 2568 ที่ 12.6 เท่า ใกล้เคียงกับ TU แต่มีปัจจัยพื้นฐานที่กลับมาเป็นบวกแล้ว