บล.กรุงศรีฯ: 

KSS Strategist Comment: Trade Deal Negotiation Strategy ประเมินระดับกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ต่อไทย ใน  5 ฉากทัศน์ เพื่อให้นักลงทุนสามารถนำไปวางแผนเชิงกลยุทธ์ ดังนี้

Facts : กระบวนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯของประเทศต่างๆ กำลังดำเนินต่อเนื่อง ก่อนการชะลอการใช้ Reciprocal Tariffs จะสิ้นสุดลงในวันที่ 9 กคนี้ ล่าสุด ณ 3 กค 2025 มี 3 ชาติ ที่ได้ข้อตกลงการค้าแล้วคือ 

•  อังกฤษ ได้ข้อตกลงที่ระดับ Universal Tariff 10% (เดิม Reciprocal Tariff 10%) 

•  จีน ได้ข้อตกลงที่ระดับ 30% (ลดลง 44.4% จากฐานเดิมที่ถูกประกาศ Reciprocal Tariff 54% ก่อนพุ่งไป 145% ช่วงวันที่ 9 เมย 2025)  

Noted : ทำให้ Effective Tariff Rate ที่จีนเผชิญ คือ 55%(มาจาก 30% ใหม่ + 25% จากกำแพงภาษีปี 2018 Trump)

•  เวียดนาม เป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ที่ได้ข้อตกลงที่ระดับ 20% (ลดลง 56% จากฐานเดิมที่ถูกประกาศ Reciprocal Tariff 46%)  

•  ข้อสังเกต แม้วันนี้ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลง -0.19% ในช่วงท้ายตลาด อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าชาติอื่นในอาเซียนอาจได้ดีลการค้าที่สามารถแข่งขันได้ 

*ข้อตกลงการค้าที่ดึงกำแพงภาษีลงสู่ 10%( Universal Tariff) ได้คือกรณีดีสุดของทุกประเทศ แต่เงื่อนไขการแลกเปลี่ยนคือจุดต่างของแต่ละประเทศ

Impacts  : ผลจากเวียดนาม ที่เป็นชาติแรกใน SEA ที่ได้ดีลกับสหรัฐฯ ทำให้กำแพงภาษี 20% เป็น Benchmark ในการวิเคราะห์ผลกระทบจากดีลภาษี “Reciprocal Tariff” ที่ไทยกำลังเจรจา โดยแบ่งเป็น 5 ฉากทัศน์ ดังนี้

ฉากทัศน์ 1: ไทยได้ดีลภาษี 10–15% (Better than Vietnam)

•  มุมมองตลาด: “Bullish”

•  ไทยถูกมองเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์  Fund flow ไหลกลับไทย

•  SET Re-rate ได้อีก +3–5%

•  EPS กลุ่มส่งออกกระทบน้อยมาก < -0.5% แต่หุ้นกลุ่มส่งออกจะเป็นการกลับสถานะต่อเนื่อง

•  เศรษฐกิจฟื้นไวจาก Confidence และ FDI กลับเข้ามา

หุ้นเด่น:

•  WHA, AMATA : นิคมฯ รับ FDI China plus 1

•  DELTA, KCE, HANA : Export Tech

•  TU, ITC, AAI, CPF, STA : อาหารส่งออก

•  COM7, ADVICE, SYNEX, BE8, BBIK, GULF, GPSC : นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ

•  ADVANC, TRUE : Infra + Import Technology Play

ตอนนี้ ตลาดน่าจะ price in โอกาสไทยได้ดีลเท่ากันหรือดีกว่านิดๆ ในส่วนภาษีนำเข้า โดยกรณี ไทยถูกต่อรองงดภาษีนำเข้าสหรัฐเหมือนเวียดนาม บวกต่อกลุ่มนำเข้า Consumer Electronic (Com7, Advice, Synex) นำเข้า Software (Be8, Bbik) นำเข้าอุปกรณ์ (Advanc, True, Inset) นำเข้าก๊าซ (Gulf, Gpsc, Bgrim, Pttgc)

ฉากทัศน์ 2: ไทยได้ดีลภาษี 15–18% (Slightly better vs Vietnam)

•  มุมมองตลาด “ค่อนข้างเป็นบวก”

•  ไทยยังดีกว่าเวียดนามเล็กน้อย Fund flow เข้าปานกลาง

•  SET แกว่งตัวในกรอบ 1,130–1,180

•  EPS กลุ่มส่งออกกระทบเล็กน้อย -0.8%

•  FDI ทยอยไหลเข้า จากความสามารถแข่งขันได้

•  ดอกเบี้ยไทยมีโอกาสลงต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป

หุ้นเด่น:

•  Selective Export: KCE, HANA

•  นิคมฯ: WHA, AMATA (ยังสะสมได้)

•  นำเข้า (กรณีไทยงดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาทิ เทคโนโลยี) : ADVANC, COM7, ADVICE, INSET นำเข้าก๊าซ : PTTGC, GPSC, BGRIM

ฉากทัศน์ 3: ไทยได้ดีลภาษี 19–21% (เท่าเวียดนาม)

•  มุมมองตลาด: “เป็นกลางถึงบวกแคบ” จากประเด็นนี้

•  ตลาดเริ่มรู้สึกว่าไทย “ไม่โดดเด่น” เหนือคู่แข่ง

•  EPS ส่งออก -1.2%

•  Fund flow ผันผวนเล็กน้อย / หุ้นกลุ่มส่งออกพักฐาน

•  ตลาดต้องรอ Catalyst จากเรื่องใหม่ๆ 

หุ้นเด่น:

•  Domestic Defensive: BDMS, CPALL

•  โรงไฟฟ้า: GULF, GPSC (Yield trade)

•  หุ้นเปิดเมือง–ท่องเที่ยว: MINT, CENTEL  รับเปิดพรมแดนสหรัฐฯ

•  หุ้นอิง Re-opening US Market: MEGA, TFG

•  เช่าซื้อ: KTC, MTC ฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

•  นำเข้า (กรณีไทยงดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาทิ เทคโนโลยี) : ADVANC, COM7, ADVICE, INSET นำเข้าก๊าซ : PTTGC, GPSC, BGRIM

ฉากทัศน์ 4: ไทยได้ดีลภาษี 22–25% (แย่กว่าเวียดนาม)

มุมมองตลาด: ลบกลาง–นักลงทุนลดน้ำหนักหุ้นไทย

•  ความเชื่อมั่นต่อไทยในห่วงโซ่โลกสั่นคลอน

•  Fund Flow เริ่มเทไปเวียดนาม/อินเดีย

•  EPS ส่งออก -2.0% / SET มีโอกาสแกว่งต่ำกว่า 1,100

•  ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดไวขึ้น

หุ้นเสี่ยง:

•  ส่งออก: DELTA, COM7, MEGA

•  นิคม: WHA, AMATA ความไม่แน่นอนสูง

•  ธนาคาร: KBANK, SCB  ปรับลดประมาณการ GDP

หุ้นป้องกันความเสี่ยง:

•  พลังงาน: PTTEP, BANPU

•  โรงพยาบาล: BDMS

•  Domestic Laggards: ADVANC, GULF

•  เช่าซื้อ: KTC, MTC, SAWAD ได้บางส่วนจากดอกเบี้ยลง

ฉากทัศน์ 5: ไทยถูกเก็บภาษี >25%  ( Worst Case)

มุมมองตลาด: ลบมาก : Repricing ทั่วกระดาน

•  EPS ตลาด -3% ถึง -4%

•  Fund Flow ไหลออกชัด / Risk Premium พุ่ง

•  เศรษฐกิจไทยเสี่ยง “Hard Soft Patch”

•  นโยบายการเงิน-การคลังต้องใช้เต็มกำลัง

หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง:

•  Export–Tech Import – นิคม – ธนาคาร

หุ้นพักเงิน: รับอานิสงค์ดอกเบี้ยลดลงไว

•  ดอกเบี้ยลด : KTC, MTC

•  High Yield อาทิ ADVANC, AP 

•  หนี้สูง อาทิ TRUE,  MINT, CPALL

•  Energy Defensive: GULF, BCPG

•  Healthcare: BDMS, BCH, CHG

•  ท่องเที่ยว CENTEL, ERW

- Advertisement -