บล.กรุงศรีฯ:
KSS Strategist Comment: ทีมกลยุทธ์ออกรายงานกลยุทธ์การลงทุนงวด 3Q25 “Positioning Amidst Global Trade Recalibration and EM Re-Rotation” ตลาดหุ้นไทยน่าจะพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ภาวะ “Deep Value” จะหนุนการฟื้นตัวระยะยาว Top Picks: ADVANC, TRUE, GULF, MTC, BDMS, CENTEL, PTTGC, IVL, CPALL, WHA ส่วน Mid-Small Cap Play : BCH, SAWAD, AMATA, ERW
Key Ideas:
1.) งวด 3Q25F คาดเม็ดเงินมีโอกาสกระจายออกจาก US Dollar สู่ EM Bonds ตามด้วยตลาดหุ้นที่มีมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ภาพลงทุน 3Q25F เราประเมินยังน่าจะมีความต่อเนื่องจากพลวัตที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบาย Trump 2.0 หลัง Headwind สำคัญที่สุดของตลาดหุ้นโลกได้ถูกสะท้อนไปแล้ว แต่ผลกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สูงกว่าประเทศอื่นในฐานะผู้บริโภค แม้ความเป็นไปได้ภาพเศรษฐกิจถดถอยจะต่ำลง และน่าจะเป็นภาพ Soft Landing จากการเจรจาการค้า แต่การเจรจาที่ใช้เวลา นำมาสู่ความไม่ชัดเจนนโยบายต่อการกำหนดนโยบายการเงินระยะสั้นของสหรัฐฯกอปรกับ ประเด็นความเสี่ยงทางการคลังของสหรัฐฯ ที่คาดกลับมามีน้ำหนัก หลังการผ่านร่าง One Big Beautiful Bills ที่จะเพิ่มขาดดุลการคลังสหรัฐฯอีก 3.5-4.0 ล้านล้านเหรียญฯ (11-13% ของ GDP สหรัฐฯ) ท้ายที่สุดประเมินลดความเชื่อมั่นต่อ US Dollar Assets และนำมาสู่ภาพเม็ดเงินไหลออก โดยเราเห็นสัญญาณชัดขึ้นจาก Dollar Index ที่อ่อนค่าต่ำกว่า 100 จุดต่อเนื่อง
อิงพลวัตนโยบายการค้าอีกด้านหนึ่งที่จะเห็นสินค้าจีนปรับเปลี่ยนไปขายประเทศอื่นๆ แทนสหรัฐฯ ในอีกด้านหนึ่งนำมาสู่ภาพความยืดหยุ่นนโยบายการเงินประเทศเกิดใหม่ (EMs) ที่สูงกว่า DMs สหรัฐฯ ดังกล่าวหรือยุโรปที่เร่งปรับลดไปแล้ว ทำให้เราประเมินเม็ดเงินน่าจะหมุนสู่การเร่งซื้อพันธบัตร และตามด้วยตลาดหุ้น ซึ่งขึ้นระดับ Valuation ผสาน ภาพเชื่อมั่นต่อ Downside GDP ที่ต่ำ จากพัฒนาการเจรจาการค้า ที่กลุ่มประเทศดังกล่าวส่วนใหญ่รุดเจรจากับสหรัฐฯ นำโดยจีนที่ได้ข้อสรุปแล้ว ส่วนประเทศมหาอำนาจอื่นๆ น่าจะตามหลังจากนั้น นโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อลดผลกระทบเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายการคลังที่คาดหวังแรงกระตุ้นอย่างมีเสถียรภาพและต่อเนื่อง
2.) ตลาดหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายหลักรอบนี้ คือ จีน ส่วนไทยยังฉุดรั้งเสถียรภาพการเมืองที่ซ้ำเติม แต่ตลาดหุ้นอยู่ในโซนลงทุน พร้อมฟื้นตัว หากมีความชัดเจนด้านใดด้านหนึ่ง รวมถึงแรงกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากนโยบายการเงินที่เร่ง
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนช่วง 3Q25F เราประเมินกระจายน้ำหนักลงทุนไปที่สินทรัพย์พันธบัตรตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ส่วนตลาดหุ้นเลือกไปที่จีนที่มีคุณสมบัติพร้อม Outperform i.) ตลาดหุ้นยังมีส่วนลดจาก MSCI EM ii) การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯที่มีข้อสรุปจะช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง iii) เสถียรภาพขับเคลื่อนนโยบายการคลัง คาดการประชุม Politburo ก.ค. 25 เป็นจุดเร่งความเชื่อมั่น iv.) นโยบายการเงิน
ส่วน SET Index จุดดี คือ เราประเมินตลาดหุ้นอยู่ในโซนฐาน หลังปรับตัวลงต่อเนื่องจากความผันผวนของปัจจัยภายนอกและการขาดความเชื่อมั่นในปัจจัยภายใน จนปัจจุบันอยู่ในโซน Deep Value อย่างชัดเจน Current Equity Risk Premium เฉียด 6.0% หรือเทียบเท่า AVG + 3S.D.วิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทั้ง Subprime และ COVID แต่ปัจจุบัน คือ โซนฐานสำหรับลงทุนระยะกลาง-ยาวที่ดี อิงรอบที่ตลาดหุ้นมี Current Equity Risk Premium แตะระดับดังกล่าวในอดีต พบว่า ผลตอบแทน SET เฉลี่ยหลังจากนั้น 3, 6 เดือน และ 1ปี สูงถึง 19.6%, 19.2% และ 62.5%
3.) ปรับเป้าหมายปี 2025 ลงสู่ 1370 จุด แนะนำได้ประโยชน์แนวทางฟื้นฟูประเทศ ลด Downside จากผลกระทบมาตรการค้า เน้น ADVANC, TRUE, GULF, MTC, BDMS, CENTEL, PTTGC, IVL, CPALL, WHA /Small Cap: BCH, SAWAD, AMATA, ERW
ดัชนีเป้าหมายสำหรับ SET ในปี 2025 กำหนดไว้ที่ 1370 จุด (ปรับลดจาก 1,418 จุด) โดยใช้สมมติฐานกำไรตลาดปี 2024 ที่ 87 บาทต่อหุ้น (ปรับลดจาก 90 บาท) ตามหลักอนุรักษ์นิยมเพื่อสะท้อนผลกระทบของมาตรการกีดกันการค้าต่อราคาน้ำมัน ขณะที่คง Target PER เหลือ 15.7 เท่า จากเดิม 17.3 เท่า อันเนื่องมาจากภาพเม็ดเงินลงทุนภายในที่อยู่ในช่วงรอยต่อเพื่อฟื้นตัวจากโซนฐาน โดยคาดหวังจุดเปลี่ยนสำคัญช่วงปลาย 3Q25 จากเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน ThaiESG
แรงขับเคลื่อนหลักสำหรับตลาดในระยะถัดไป ได้แก่:
• นโยบายการเงินที่เราคาด BOT จะปรับลดเชิงรุก และนำมาสู่ภาพการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใน เร่งการลงทุนเอกชนธุรกิจเชื่อมโยง ต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Infrastructure Technology)
• มาตรการการค้าที่มีโอกาสจะเห็นข้อสรุปทางผ่อนคลาย ตามด้วย
• ความชัดเจนการเมืองทางใดทางหนึ่งที่คลาย Overhang การผลักดันโยบายภาครัฐฯ
• ภาพการสร้างฐานเม็ดเงินลงทุนระยะยาวภายในรอบใหม่ที่จะชัดเจนขึ้นช่วงปลาย 3Q25
ดังนั้นประเมิน 3Q25F คาดจะเห็น SET จะแกว่งขึ้น ที่กรอบแนวรับ 1053/100จุด แนวต้าน 1250/1300จุด
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำให้ Overweight หุ้นในธีมหลัก 1) หุ้น Thailand Rate Cut cycle to new CAPEX cycle คาดหวังมาตรการหนุนเศรษฐกิจไทยทำผ่านนโยบายการคลังจำกัดขี้น รวมถึงความเสี่ยงการค้าที่เข้ามาเป็นความเสี่ยง คาด BOT มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยเร่งขึ้น คาดสารตั้งต้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย จากผลบวกต่อกลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยลดลง กำลังซื้อภายในดีขึ้น และตามด้วยการลงทุนรอบใหม่ คาดหวังที่การสร้าง New S Curve ผ่านการลงทุน Digital ต่อยอด Infrastructure Tech 2) กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากพัฒนาการเจรจาการค้าสหรัฐฯ – ไทย อาทิ China Plays Technology ส่งออก และกลุ่มได้ประโยชน์จากการเจรจาการค้า 3.) กลุ่มที่เด่นขึ้นตามช่วงฤดูกาลปลายฝน ต้นหนาว อาทิ การแพทย์ โรงกลั่น 4.) หุ้นพื้นฐานที่อยู่ในโซน Value ที่พร้อมฟื้นตัว จากการผ่านจุดต่ำสุด เช่น ท่องเที่ยว โรงแรม
โดยมีหุ้นเด่น 3Q25F : ADVANC, TRUE, GULF, MTC, BDMS, CENTEL, PTTGC, IVL, CPALL, WHA
ส่วน Mid-Small Cap Play : BCH, SAWAD, AMATA, ERW
สำหรับการลงทุนต่างประเทศ 3Q25F : เน้นตลาดเกิดใหม่ในเอเชียที่มีแรงหนุนจาก Asia Dollar แข็งค่า เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ ผสานโครงสร้างภายในรายประเทศหนุน อีกทั้งระดับ Valuation ยังมีส่วนลดระยะยาว แนะนำ จีน ( KF-CHINA, KFCSI300-A, MEGA10CHINA-A) ตลาดเกิดใหม่เอเชีย(KF-EMXCH-A) อาเซียน (KT-ASEAN-A : สิงคโปร์ 44% อินโดนีเซีย 17% ไทย 16% มาเลเซีย 12% และอื่นๆ ในอาเซียน) กองทุนหุ้นไทย (KSF100-A, K-MIDSMALL, KFENS50-A) กองทุนหุ้นโลก (KFGBRAND-A) ธีมหุ้นเอไอ (MEGA10AI-A) และกระจายสินทรัพย์ปลอดภัย Local Bond (KFAFIX-A) สามารถลงทุนผ่าน Apps My iFund
โดยมีหุ้นเด่น 3Q25F : ADVANC, TRUE, GULF, MTC, BDMS, CENTEL, PTTGC, IVL, CPALL, WHA
ส่วน Mid-Small Cap Play : BCH, SAWAD, AMATA, ERW
สำหรับการลงทุนต่างประเทศ 3Q25F : เน้นตลาดเกิดใหม่ในเอเชียที่มีแรงหนุนจาก Asia Dollar แข็งค่า เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ ผสานโครงสร้างภายในรายประเทศหนุน อีกทั้งระดับ Valuation ยังมีส่วนลดระยะยาว แนะนำ จีน ( KF-CHINA, KFCSI300-A, MEGA10CHINA-A) ตลาดเกิดใหม่เอเชีย(KF-EMXCH-A) อาเซียน (KT-ASEAN-A : สิงคโปร์ 44% อินโดนีเซีย 17% ไทย 16% มาเลเซีย 12% และอื่นๆ ในอาเซียน) กองทุนหุ้นไทย (KSF100-A, K-MIDSMALL, KFENS50-A) กองทุนหุ้นโลก (KFGBRAND-A) ธีมหุ้นเอไอ (MEGA10AI-A) และกระจายสินทรัพย์ปลอดภัย Local Bond (KFAFIX-A) สามารถลงทุนผ่าน Apps My iFund
