บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
C.P. Axtra PCL (CPAXT.BK / CPAXT TB) ประมาณการ 2Q68: กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY แต่จะลดลง QoQ
Event:
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CPAXT ใน 2Q68 จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+6% YoY, -13% QoQ) ดีขึ้นเล็กน้อย YoY เพราะยอดขายเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาร้าน และการควบคุมต้นทุน ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรจะลดลง QoQ เพราะผลจากปัจจัยฤดูกาล ซึ่งจะทำให้กำไรในงวด 1H68 อยู่ที่ 5 พันล้านบาท (+6% YoY) และคิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
Impact
คาดว่า SSSG จะได้รับผลกระทบบางส่วนจากภาวะเศรษฐกิจที่แผ่วลง
ถึงแม้ว่าเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่แผ่วลง และผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล แต่เราคาดว่าตำแหน่งทางธุรกิจที่ดี และการจำหน่ายสินค้าจำเป็น (สำหรับผู้บริโภค) จะช่วยรองรับและจำกัดการลดลงของ SSSG เราคาดว่า CPAXT จะสามารถรักษาสมดุลของ same-store-sales ได้ทั้งในส่วนของธุรกิจค้าส่ง (ทรงตัวใน 2Q68) และธุรกิจค้าปลีก (ของ Lotus’s ในประเทศไทย -0.5% ใน 2Q68 ส่วนของ Lotus’s มาเลเซีย +3.0%) ซึ่งจะทำให้รายได้จากยอดขายใน 2Q68 อยู่ที่ 1.24 แสนล้านบาท (+2% YoY, -0.4% QoQ) ส่งผลให้รายได้จากยอดขายในงวด 1H68 อยู่ที่ 2.49 แสนล้านบาท (+3% YoY) และคิดเป็น 49% ของประมาณการเต็มปีของเรา ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ารายได้จากค่าเช่าใน 2Q68 จะอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (-4% YoY, -1% QoQ) สะท้อนถึงอัตราการเช่าพื้นที่ (occupancy rate) ที่ประมาณ 93%
อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากการคัดสรรสินค้า
เราคาดว่า CPAXT จะเดินหน้าขายสินค้า house brand และสินค้าในหมวดอาหารสด (ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัท) ผ่านทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก พร้อมกับการผนวก synergy หลังการควบรวมกิจการ ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายของธุรกิจค้าส่งใน 2Q68 จะเพิ่มขึ้นเป็น 11.2% (+30bps YoY, -90bps QoQ) ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจค้าปลีกอาจจะถูกกระทบบางส่วนจากสภาวะของการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจค้าปลีกใน 2Q68 อยู่ที่ 17.9% (-20bps YoY, +30bps QoQ) ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าใน 2Q68 อยู่ที่ 14.2% (+10bps YoY, -30bps QoQ) และเมื่อนำอัตรากำไรขั้นต้นจากรายได้ค่าเช่ามารวมด้วย จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมใน 2Q68 อยู่ที่ 16.0% (-10bps YoY, -20bps QoQ)
คาดว่าจะคุม SG&A อยู่
เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะเพิ่มขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับช่องทาง omni-channel (สำหรับธุรกิจ B2B) ในขณะที่น่าจะยังบริหารจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจ B2C ได้ดี ซึ่งจะทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายของธุรกิจ B2B อยู่ที่ 10.2% (จาก 10.2% ใน 2Q67 และ 10.0% ใน 1Q68) และของธุรกิจ B2C อยู่ที่ 18.2% (จาก 18.5% ใน 2Q67 และ 18.4% ใน 1Q68)
Valuation
สภาวะทางการเมืองที่ขาดเสถียรภาพในปัจจุบันอาจจะทำให้การบริโภคโดยรวมลดลง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า CPAXT จะอยู่ในสถานะที่ดี (ในแง่สินค้าที่ขายและการกำหนดราคา) นอกจากนี้ เราคาดว่าน่าจะยังคงเห็น synergy หลังการควบรวมเพิ่มขึ้นอีกใน 2H68 ซึ่งน่าจะช่วยรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยได้บ้าง เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 เอาไว้ที่ 23.00 บาท อิงจาก PER ที่ 22.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -0.5 S.D) และแนะนำ “ซื้อ”
Risk
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้ช้ากว่าที่วางแผนไว้, disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ