บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

AEON Thana Sinsap (AEONTS.BK/AEONTS TB)* คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น และ คชจ.ดำเนินงานลดลง

Event: FY1Q68 (สิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2568) และแนวโน้มปี 2568F

Impact

กำไรใน 1Q68 อยู่ที่ 772 ล้านบาท (+6% QoQ, +47% YoY) คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปี FY68F

กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง 8% และฐานกำไรที่ต่ำใน 4Q67 เนื่องจากมีการบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีพิเศษที่ 37% ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YoY เป็นเพราะรายได้ลดลง 4% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลดลง 15% นอกจากนี้ สินเชื่อยังทรงตัว QoQ แต่หดตัว 3% YoY ทั้งนี้ สินเชื่อ H/P (11% ของสินเชื่อรวม) เพิ่มขึ้น 6% QoQ และ 27% YoY (จากสินเชื่อในประเทศไทยและกัมพูชา) ในขณะที่สินเชื่อกลุ่มอื่น ๆ (บัตรเครดิต และ P-Loan) ลดลง

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงใน 1Q68 แต่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไป

บริษัทบอกว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลงยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของบริษัทในการใช้ค่าใช้จ่ายในการตลาดด้วย ซึ่งการที่บริษัทคาดว่าการจับจ่ายใช้สอยจะชะลอตัวลง และตั้งใจจะลดอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปลอดหลักประกัน จึงลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดใน 1Q68 ลง และเปลี่ยนมาใช้งบกับช่องทางสื่อสังคม (social media) แทน ซึ่งทำให้สัดส่วนต้นทุน/รายได้ลดลงเป็น 38% (จาก 40% ใน 1Q67 และ 42% ใน 4Q67) โดยในระยะต่อไป บริษัทอาจจะพิจารณาเพิ่มการใช้จ่ายในไตรมาสต่อ ๆ ไป เมื่อภาวะตลาดดีขึ้น

คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นจากการชะลอโตสินเชื่อบุคคลไม่มีหลักประกัน

NPL ลดลง 3% QoQ และ 8% YoY ใน 1Q68 โดย NPL จาก P-Loan และบัตรเครดิตลดลงติดต่อกันมาสองไตรมาสแล้ว ซึ่งเกินพอที่จะชดเชย NPL ที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อ H/P ได้ ทั้งนี้ บริษัทบอกว่า NPL ของกลุ่ม P-Loan และบัตรเครดิตที่ทรงตัวเป็นเพราะบริษัทหยุดปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ลูกค้ารายใหม่มาตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว นอกจากนี้ การที่ NPL ลดลง ค่าใช้จ่ายในการกันสำรองในไตรมาสนี้จึงทำให้ส่วนรองรับหนี้เสียเพิ่มขึ้น โดยสัดส่วน NPL coverage เพิ่มเป็น 162% (จาก 154% ในไตรมาสที่แล้ว)

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568F/2569F -2%/-5% คงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 110 บาท

AEONTS เผยว่ายังคงใช้กลยุทธ์ขยายสินเชื่อแบบ selective ในไตรมาสต่อ ๆ ไป คาดว่าอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเพื่อจับธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งทำให้เราปรับสมมติฐานสำคัญ โดยปรับเพิ่ม credit cost เป็น 7.8%/7.7% (จากเดิม 7.5%/7.2%) นอกจากนี้ เรายังใช้สมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปี 2568F/2569F ที่ +1%/+5%, ส่วนต่างสินเชื่อที่ดีขึ้นเป็น 16.7%/16.9% และสัดส่วนต้นทุน/รายได้ที่ 38%/39% เราคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ทั้งนี้จาก AEONTS เน้นลูกค้าระดับล่าง เราจึง de-rate PE เป็น 9x (ต่ำกว่า PE ของ KTC 10%) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2568F ใหม่ที่ 110 บาท (จากเดิม 124 บาท) โดยยังคงคำแนะนำ “ถือ”

Risks

เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, NPL เพิ่มขึ้น

 

- Advertisement -