บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index + 17.7 จุด ปิดที่ 1161.01 จุด ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วันแล้ว สะท้อนมุมมองขาขึ้นทั้งระยะสั้น – กลาง ผสานกับมูลค่าการซื้อขายเร่งขึ้นมาที่ 4.79 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นไทยปรับขึ้นในทิศทางเดียวกันกับประเทศในกลุ่มเอเซียส่วนใหญ่ (ยกเว้น กลุ่มมาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ ) โดย Sector ที่ปรับขึ้น นำโดย กลุ่มค้าปลีก CPAXT, CRC, CPALL กลุ่มพลังงาน GULF PTT กลุ่มขนส่ง AOT กลุ่มโรงพยาบาล BDMS ฯลฯ ในทางตรงข้ามกลุ่มที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มธนาคาร KBANK, KTB SCB BBL TTB กลุ่มประกัน TLI ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
KBANK -1.26%, KTB -1.84% SCB -0.84% BBL-1.38% TTB -1.06%
กลุ่มธนาคารปรับลงจากประเด็นมุมมองอัตราดอกเบี้ยในประเทศเป็นขาลง ผสานกับเข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ 2Q25 ประเมินธนาคารที่เราศึกษารายงานกำไรสุทธิ 2Q25F ลดลง % y-y และ % q-q เพราะการลดลงของ NIM สินเชื่อรวม เงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมด้านตลาดทุน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) จากคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง เราคาดธนาคารประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1H25F dividend yield ที่ 1-3% เลือก KBANK และ KTB เป็น Top Pick
KTC +4.8%
มีจิตวิทยาบวกจาก 1.) คาดแนวโน้มดอกเบี้ยไทยเป็นขาลง 2.) าคาหุ้น KTC ปรับลงมาซื้อขายที่ 1.6x เทียบเท่ากับ Forward PBV ที่ -2.25 SD ii) มีจุดแข็งเรื่องงบดุล โดยเฉพาะสำรองต่อหนี้เสีย (Coverage Ratio) คงระดับสูงราว 385% iii) เงินปันผลน่าสนใจ dividend yield คาดที่ 5% iv)กำไรสุทธิปี 2025F คาดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อจากปี 2024F
MTC +6.1% SAWAD +5.5% TIDLOR +8.75%
กลุ่มการเงินปรับขึ้นแรงหนุนจาก คาดโอกาสการลดดอกเบี้ยไทยยังเป็นขาลง อิง Thai Bond Yields ทั้งระยะสั้น – กลาง – ยาว (Indicator ชี้นำทิศทางดอกเบี้ยฯ) ปรับลงและต่ำอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ผสานกับตลาดเก็งประเด็นผู้ว่า ธปท.ท่านใหม่หนุนโอกาสลดดอกเบี้ย (KSS ประเมินว่าไม่ว่าจะเป็นท่านใด ? ยังคงมีมุมมองจะสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย Krungsri Research คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งใน 2H2025 และดอกเบี้ยสิ้นปีจะอยู่ที่ 1.25% โดยรวมเรายังคงมุมมองบวกต่อ MTC เป็นหุ้น Top picks คงคำแนะนำ BUY ที่ TP25F 58 บ. และคงเป็น Top Pick ของกลุ่ม Consumer Finance เพราะ i) มีการพัฒนาการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงบวกตั้งแต่ 3Q23 และการตามเก็บหนี้ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อใน 2025F ii) ได้ผลบวกจากดอกเบี้ยขาลง iii) คาดผลประกอบการ 2Q25-2025F ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
CPALL +2.79% CPAXT +4.6%
กลุ่มค้าปลีกปรับขึ้น i.) ได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยประเทศเกิดใหม่ (EM) เป็นขาลง ติดตามปัจจัยหนุนความชัดเจนการพิจารณาผู้ว่า BOT ท่านใหม่วันนี้ ในฐานะหุ้นหนี้สูง ii.) กลุ่มค้าปลีกเป็นหุ้นภาคบริการได้ประโยชน์สัญญาณบวกนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่องที่ยัง Laggard อุตสาหกรรมหลักๆ ที่ได้ประโยชน์ลักษณะเดียวกัน อาทิ ท่องเที่ยว ยังคงคำแนะนำซื้อ CPALL (TP25F-80)
AOT +6.7% CENTEL +4.7% ERW +4.5% MINT +4.3%
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงพยาบาลปรับขึ้น มีจิตวิทยาบวกหนุนระหว่างวันจาก 1.รายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด 7-13 ก.ค. ฟื้นตัว +0.3%w-w สะท้อนภาพผ่านจุดต่ำสุด ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเด่น +2.9% ขึ้นทำจุดสูงสุดตั้งแต่ช่วงฤดูกาลต้นปี 2.) ก.ล.ต. เตรียมเปิด Sandbox ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยน Crypto Currency เป็นเงินบาทใช้จ่ายในไทย มุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มบริการ ลุ่มโรงแรมที่มีจำนวนห้องในพื้นที่ Sandbox ภูเก็ต อิง SHR มากที่สุด ราว 42.2%ของจำนวนห้องรวมทั้งหมดในไทย, CENTEL รองลงมาคือ 19.8% , MINT รองลงมาคือ 17% ตามลำดับ กลุ่มโรงพยาบาล ที่มีในพื้นที่ ภูเก็ต หลักๆคือ BDMS คงมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มบริการ เน้น BDMS (TP25F-33), CENTEL (TP25F-35)