บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
SCGP: SCG PACKAGING (SCGP TB)
ฟื้นตัวแข็งแกร่งท่ามกลางความเสี่ยงการค้า
- คาดกำไรปกติ 2Q25 ฟื้นต่อเนื่อง q-q ได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในเวียดนาม
- การปรับโครงสร้างทางการเงินของ Fajar และฐานการผลิตในหลายประเทศช่วยลดความเสี่ยงจากมาตรการ US tariff
- คงประมาณการและราคาเป้าหมายที่ 29 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
คาดกำไรปกติ 2Q25 ฟื้นตัวต่อเนื่อง q-q หนุนโดยเวียดนาม
เราเชื่อว่าผลประกอบการของ SCGP ยังทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2Q25 ท่ามกลางความเสี่ยงของสงครามและการค้า แต่การบริโภคของประชาชนในแต่ละประเทศดูจะยังพอไปได้ ประกอบกับการเร่งส่งออกสินค้าในระหว่างการเลื่อนใช้มาตรการภาษี 90 วัน ทำให้เราคาดยอดขายกระดาษบรรจุภัณฑ์กลางน้ำและปลายน้ำของ SCGP จะดีขึ้น q-q โดยเฉพาะในเวียดนามที่การบริโภคในประเทศเร่งตัวขึ้นมาก (แต่สถานการณ์ยังสู้ปีก่อนไม่ได้) ชดเชยธุรกิจ Fibrous ที่อุปสงค์ชะลอ เราจึงคาดรายได้ 2Q25 ของ SCGP ที่ 33.1 พันล้านบาท (+2.8% q-q, -3.3% y-y) และคาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยจากราคาถ่านหินที่ปรับลงเร็ว และการจัดหาวัตถุดิบภายในประเทศมากขึ้น ส่วนรายจ่ายอื่นเชื่อว่ายังคุมได้ดี โดยรวมแล้ว เราจึงคาดกำไรปกติที่ 947 ล้านบาท (+3.1% q-q, -36.9% y-y)
การปรับโครงสร้างทางการเงินของ Fajar ลดภาระดอกเบี้ยใน 2H25
สถานการณ์ใน Fajar ทยอยดีขึ้นต่อเนื่องตามแผนที่บริษัทวางไว้ มีการปรับขึ้นราคาขาย 2 ครั้ง โดยที่อุปสงค์ไม่หดหาย แม้ว่าอุปสงค์ยังไม่ดีขึ้น แต่บริษัทมีการกระจายฐานลูกค้า พยายามพึ่งพาตลาดจีนน้อยลง ส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน และตะวันออกกลางมากขึ้น ปัจจุบัน Fajar ปรับโครงสร้างทางการเงินเสร็จแล้ว เงินเพิ่มทุนที่ได้รับจาก SCGP นำไปลดหนี้ ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายของ Fajar น่าจะลดลงได้ประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยของ SCGP ที่จะลดลง 250 ล้านบาทต่อปี เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป
ความเสี่ยงจากมาตรการภาษีการค้าจำกัดได้ด้วยการกระจายตลาด
ผลกระทบจากมาตรการภาษีการค้าในวันนี้ยังไม่มีข้อสรุป แต่บริษัทยังเชื่อว่าผลกระทบมีจำกัด โดยรวมแล้วประมาณ 67% ของรายได้ เนื่องจาก SCGP ส่งออกโดยตรงไปยังสหรัฐฯ 3% ลูกค้าของ SCGP ที่ส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็น 3% ของรายได้ของ SCGP ขณะเดียวกัน เนื่องจากสินค้าของบริษัทเป็น consumer products เชื่อว่าจะหาตลาดทดแทนได้ไม่ยาก นอกจากนี้ การที่บริษัทมีฐานการผลิตหลายแห่ง (หนึ่งในขนาดที่ใหญ่คือเวียดนาม) เชื่อว่าผลกระทบอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
ผลประกอบการ 1H25 อยู่ในทิศทางฟื้น คงประมาณการและราคาเป้าหมาย
หากประมาณการเป็นไปตามคาด กำไรปกติ 1H25 จะคิดเป็น 46% ของคาดการณ์ทั้งปี แม้ว่าอาจมีความเสี่ยงเรื่องภาษีการค้า แต่น่าจะชดเชยได้จากภาระดอกเบี้ยจ่ายของ Fajar ที่ลดลงและผลประกอบการในเวียดนามที่ดีมาก เราจึงคงประมาณการและราคาเป้าหมาย 29 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ”